ประธานศาลฎีกา กล่าวคำอวยพรปีใหม่ 2564

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2605 ครั้ง

วันที่ 1 ม.ค.64 นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา กล่าวคำอวยพรปีใหม่ 2564 เนื้อหาระบุว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทุกท่าน เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2564 ที่จะมาถึงนี้ ดิฉันและข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ชาวไทยทุกท่านร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพร้อมใจกันตั้งจิตอธิษฐานต่อคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในสากล ตลอดจนพระบารมีแห่งสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ทุกพระองค์ ได้โปรดดลบันดาลพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ให้ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีแผ่ไพศาล สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าแก่ประชาชนชาวไทยตราบชั่วกาลนาน

ในปีที่ผ่านมา ศาลยุติธรรมในฐานะองค์กรที่ใช้อำนาจอธิปไตยทางตุลาการได้ทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมในการพิจารณาพิพากษาคดีต่างๆ ที่ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมโดยมุ่งเน้นความถูกต้อง เป็นธรรม และรวดเร็ว ทั้งยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรมดังที่เคยถือปฏิบัติมาตลอดมา

อย่างไรก็ตาม นับแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประเทศของเราประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อันส่งผลให้ศาลยุติธรรมต้องกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการพิจารณาคดีในศาลเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว คดีจำนวนมากต้องเลื่อนออกไป แต่ด้วยการบริหารจัดการคดีที่ดี การนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยต่างๆ มาใช้ ประกอบกับความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวผ่อนคลายลง ศาลยุติธรรมก็สามารถนำคดีทุกคดีกลับมานัดพิจารณาพิพากษาให้แล้วเสร็จไปในระยะเวลาไม่นานนัก

และหลังจากนั้นข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมทุกคนต่างทุ่มเทการทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีกลับเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานระยะเวลาที่กำหนดไว้ คือ ในศาลชั้นต้นคดีทั่วไปแล้วเสร็จภายในเวลา 12 เดือน นับแต่วันรับฟ้อง คดีอาญาที่จำเลยต้องขังระหว่างพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน นับแต่วันออกหมายขังระหว่างพิจารณา ส่วนในศาลสูงแล้วเสร็จภายใน 12 เดือน นับแต่วันรับคดีไว้พิจารณา ซึ่งในปีพุทธศักราช 2563 นับถึงเดือนพฤศจิกายน ศาลยุติธรรมทั่วราชอาณาจักรทั้งสามชั้นศาลมีปริมาณคดีเข้าสู่การพิจารณาถึง 1,677,587 คดี สามารถพิจารณาแล้วเสร็จไปร้อยละ 84

นอกจากนี้ศาลยุติธรรมยังได้นำมาตรการต่างๆ เช่น การลดการเดินทางมาศาลโดยไม่จำเป็นของบุคคลในคดีทุกฝ่าย การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี การไกล่เกลี่ยและประนอมข้อพิพาทออนไลน์มาเป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่พี่น้องประชาชน ซึ่งผลการดำเนินการเป็นที่น่าพอใจและสามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้แก่พี่น้องประชาชนได้

สำหรับทิศทางในการทำงานต่อไปของศาลยุติธรรมนั้น ดิฉันได้กำหนดนโยบายในการบริหารราชการภายใต้หลักการ บริสุทธิ์ ยุติธรรมโดยมีแนวทางดำเนินการ 5 ด้าน คือ เสมอภาค สมดุล สร้างสรรค์ ส่งเสริม และส่วนร่วม นโยบายนี้ในภาพรวมจะให้ความสำคัญต่อการทำงานที่โปร่งใสตรวจสอบได้ ให้ความเสมอภาคแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างเข้าถึงและเข้าใจ ให้ประชาชนรับรู้ถึงสิทธิของตนในกระบวนการยุติธรรม สร้างดุลยภาพแห่งสิทธิ โดยลดการคุมขังที่ไม่จำเป็นในทุกขั้นตอน ให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของจำเลยและผู้ต้องหา

ขณะเดียวกันก็จะยกระดับการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย เหยื่ออาชญากรรม ตลอดจนพยานไปด้วยอย่างสมดุล กระจายความยุติธรรมด้วยการพิจารณาเปิดทำการศาลในพื้นที่ห่างไกลและเหมาะสมเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างทั่วถึงเท่าเทียม ไม่เสียค่าใช้จ่ายสูง ทั้งจะส่งเสริมการมีส่วนร่วมทั้งบุคลากรภายในและประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการสร้างความรับรู้และความเข้าใจระหว่างกัน นโยบายดังกล่าวได้ลงมือขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ด้วยความร่วมมือและสนับสนุนจากข้าราชการฝ่ายตุลาการทุกคนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาแก่พี่น้องประชาชนชาวไทยว่าศาลจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนได้อย่างแท้จริง

พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน ในปีใหม่นี้ แม้จะมีข้อวิตกกังวลอยู่ทั่วไปว่าสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะกลับมาแพร่ระบาดอีกคราวหนึ่ง และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนและสภาพเศรษฐกิจของประเทศ แต่ดิฉันเชื่อว่าจะยังมีสิ่งดีๆ เรื่องดีๆ อีกหลายอย่างที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งการตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ความรักสามัคคี ตลอดจนกำลังใจที่ประชาชนในชาติมีให้แก่กัน จะทำให้เราทุกคนสามารถฟันฝ่าทุกสถานการณ์ดังเช่นที่เราเคยผ่านมาได้ด้วยกัน ซึ่งศาลยุติธรรมขอเป็นหนึ่งในกำลังใจนั้นเพื่อข้ามผ่านพ้นทุกปัญหาเคียงข้างพี่น้องประชาชนตลอดไป

ในวันขึ้นปีใหม่นี้ ดิฉันและข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ขอส่งความปรารถนาดีมายังพี่น้องประชาชนชาวไทย ขออัญเชิญอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ท่านเคารพนับถือ ตลอดจนพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้โปรดบันดาลความสุข ความสมปรารถนา และกำลังใจแด่ทุกท่าน ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกาย กำลังใจ ที่เข้มแข็ง เพื่อที่จะได้ร่วมกันสร้างสรรค์บรรดาสิ่งดีงาม ให้บังเกิดแก่ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราต่อไป สวัสดีปีใหม่ค่ะ

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2605 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน