มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2512 ครั้ง
กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ประกาศเจตนารมณ์ร่วมในการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้เป็นผู้ประกอบการใหม่ พร้อมยกระดับฝีมือแรงงานสู่การเป็นแรงงานคุณภาพ ลดปัญหาการลักลอบนำเข้าแรงงานข้ามชาติ สร้างความมั่นคงทางแรงงานไทยได้ในอนาคต
วันนี้ (5 ก.พ.64) ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมในระบบงานภาคนิคมอุตสาหกรรม ระหว่างกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ. ร่วมลงนาม อีกทั้งภายในงานดังกล่าวมีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และนายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมพิธีลงนามในครั้งด้วย
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ 2 หน่วยงานในการร่วมกันสร้างสรรค์ให้เกิดวัฒนธรรมแห่งการให้โอกาสกับผู้ที่เคยก้าวพลาดในชีวิตให้กลับมามีชีวิตใหม่และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยร่วมกับกรมราชทัณฑ์ในการเป็นตัวกลางประสานและประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมการให้โอกาสแก่ผู้ก้าวพลาด ในสถานประกอบการ สนับสนุนให้มีการจ้างงานที่เป็นแรงงานผู้ต้องขัง ให้มีการพัฒนาทักษะด้านอาชีพ มีการพัฒนายกระดับฝีมือแรงงาน ตลอดจนเป็นการสร้างผู้ประกอบการใหม่ และสร้างงาน สร้างรายได้ในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้อัตราการกระทำผิดซ้ำลดลง และเป็นการคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืนและการให้ความหวังแก่ผู้ที่เคยกระทำผิดที่มีความพร้อมและความตั้งใจกลับตนเป็นคนดี ให้ได้รับโอกาสและพื้นที่ยืนจากสังคม อีกครั้ง ด้วยการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และฝึกทักษะอาชีพให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพสามารถรองรับและสนับสนุนความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อันเป็นการสร้างเสริมเสถียรภาพความมั่นคงทางด้านแรงงาน ลดการพึ่งพิงการนำเข้าของแรงงานข้ามชาติ ทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและลักลอบเข้ามาอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาด้านการสาธารณสุข สุขภาวะต่างๆ อีกทั้งเมื่อต้องมีมาตรการผลักดันแรงงานข้ามชาติออกไป อาจส่งผลกระทบให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในระบบเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางได้ ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้เชิญชวนผู้ประกอบการมาลงทุนให้ผู้ต้องขังได้ฝึกอาชีพ ซึ่งมีเรือนจำชั่วคราวบ้านบึง สังกัดเรือนจำกลางชลบุรี เป็นเรือนจำนำร่องแห่งแรก นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมให้มีการฝึกทักษะอาชีพในระบบงานอุตสาหกรรม อาทิ 1.กลุ่มประกอบชิ้นส่วนยาง 2.กลุ่มประกอบเฟอร์นิเจอร์ 3.กลุ่มงานโลหะ/งานเชื่อม และประกอบชิ้นส่วนโลหะเป็นผลิตภัณฑ์ 4.กลุ่มอาชีพฝีมือหัตถกรรม และ 5.กลุ่มอาชีพเกษตรแปรรูป เป็นต้น
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ คุณสมบัติในการคัดเลือกผู้ร่วมโครงการ เพื่อรองรับและส่งต่อระบบงานภาคนิคมอุตสาหกรรม โดยเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ อย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ได้แก่ การคัดกรอง/จำแนกบุคคล ความต้องการทำงาน ทักษะความชำนาญการฝึกทักษะอาชีพ การยกระดับฝีมือแรงงาน รวมถึงทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อรองรับและส่งต่อให้กับระบบงานภาคนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการใช้แรงงานที่ไม่ถูกต้อง ไม่ปลอดภัยจากต่างประเทศและสร้างความเชื่อมั่นด้านการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ส่งเสริมการฝึกอาชีพแรงงานและร่วมมือในการจัดโครงการ/หลักสูตรฝึกอาชีพในสาขาขาดแคลน หรือที่ต้องพึ่งพิงแรงงานต่างด้าวภายในเรือนจำ/ ทัณฑสถาน เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ.
ด้าน นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ. มีความพร้อมประสานกับสถานประกอบการที่อยู่ในการกำกับของ กนอ. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและฝึกทักษะการทำงานให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลโครงการฯให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในกำกับของ กนอ.เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และเปิดใจยอมรับและให้โอกาส ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังสถานประกอบการ/นิคมอุตสาหกรรม ที่ยังมีพื้นที่เหลือหรือยังมีศักยภาพให้ใช้เป็นพื้นที่ในการฝึกอาชีพ ส่งเสริมทักษะการทำงาน และการพัฒนาแรงงานทางเลือก และสนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรมตามภารกิจด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงยุติธรรมอันเป็นการยกระดับการพัฒนาองค์กรและทรัพยากรมนุษย์ร่วมกัน
“กนอ.พร้อมให้ร่วมมือสร้างความเสมอภาค โดยการให้ความรู้และโอกาสในการทำงานในสถานประกอบการ ซึ่งจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นจากการสร้างงาน สร้างรายได้ในอนาคต ซึ่งถือเป็นการคืนคนดีสู่สังคมได้อย่างยั่งยืน” ผู้ว่าการ กนอ. กล่าว
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2512 ครั้ง