มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2483 ครั้ง
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งการ ผบ.เรือนจำทั่วประเทศ มุ่งเน้นงานควบคุมทั้งภายในและภายนอก บริหารเรือนจำอย่างมีมาตรฐาน พร้อมพัฒนาการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานการประชุมผู้บริหารงานราชทัณฑ์ทั่วประเทศ ครั้งที่ 3/2564 เพื่อมอบนโยบายแก่ผู้บัญชาการเรือนจำและทัณฑสถาน จำนวน 143 แห่ง โดยมี นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายบริหาร นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายปฏิบัติการ นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายพัฒนา และนายกฤช กระแสร์ทิพย์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายวิชาการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ร่วมการประชุม ณ ห้องสัมมนากรมราชทัณฑ์ ชั้น 3 อาคารกรมราชทัณฑ์
นายอายุตม์ กล่าวในที่ประชุมว่า การประชุมผู้บริหารงานราชทัณฑ์ครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่การกำชับนโยบายการบริหารจัดการเรือนจำ ให้เรือนจำและทัณฑสถานถือปฏิบัติร่วมกัน และต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตั้งแต่การควบคุมทั้งภายในและภายนอก การรักษาความสงบเรียบร้อย การดูแลความมั่นคงปลอดภัยของเรือนจำทัณฑสถาน และการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ตลอดจนการบริหารจัดการด้านสาธารณูปโภค การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในเรื่องของอาหารที่มีคุณภาพ น้ำดื่มที่สะอาดเพียงพอ การดูแลสุขอนามัยและการสาธารณสุข รวมถึงการบริหารจัดการเรือนจำด้วยความโปร่งใส การใช้งบประมาณให้ถูกต้องตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยหากพบว่า มีการทุจริต ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเกิดขึ้น ต้องดำเนินการทางวินัยอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เรือนจำและทัณฑสถานที่มีจำนวนผู้ต้องขังเกินอัตราความจุเร่งดำเนินการเกลี่ยย้ายผู้ต้องขังเพื่อบรรเทาความแออัดให้เรียบร้อยภายในวันที่ 15 มีนาคม 2564 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
สำหรับ “โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” และ “โครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดจัดประกวดมุมสุขภาพราชทัณฑ์ปันสุขดีเด่นขึ้น ให้แต่ละเรือนจำได้พัฒนามุมหนังสือและสื่อการเรียนรู้ เกี่ยวกับสุขภาพร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ผู้ต้องขังทุกคนสามารถที่จะเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ในส่วนของโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ นั้น ที่ผ่านมา ได้ร่วมกับ จิตอาสาพระราชทาน 904 ในการดำเนินการติดตามผู้พ้นโทษ จึงขอให้เรือนจำทัณฑสถานทุกแห่งบันทึกข้อมูลในระบบอย่างถูกต้อง และครบถ้วน เพื่อให้การติดตามผลมีประสิทธิภาพ และในอนาคต ได้เตรียมบรรจุให้เป็นหลักสูตรประจำเพื่อพัฒนาพฤตินิสัยและฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังให้มีงาน มีอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ โดยไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก
นายอายุตม์ กล่าวปิดท้าย ถึงความสำคัญในการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังและการจัดงานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ ซึ่งมีประวัติศาสตร์คู่กับกรมราชทัณฑ์ที่ยาวนาน จึงขอให้ผู้บัญชาการเรือนจำและผู้อำนวยการทัณฑสถานให้ความสำคัญ พยายามต่อยอดการพัฒนาฝีมือและวิชาชีพในผู้ต้องขังให้มีความหลากหลาย และทันต่อกระแสการตลาด โดยในด้านงานฝีมือ กรมราชทัณฑ์ กำลังเร่งพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด เพื่อให้ผู้ฝึกสามารถดัดแปลงไปใช้ในการประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษได้
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2483 ครั้ง