มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2808 ครั้ง
รมช.คลัง-อธิบดีธนารักษ์ ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 เพื่อให้เสร็จทันการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหาคม นี้
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.64 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ และคณะผู้บริหารกรมธนารักษ์ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่2-3 เนื้อที่ประมาณ 259 ไร่ ให้แล้วเสร็จทันกำหนดจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหาคม 2564 ณ บริเวณการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ”
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ในปี 2534 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ย้ายโรงานยาสูบทั้งหมดไปอยู่ส่วนภูมิภาค และให้พัฒนาพื้นที่เดิมของโรงงานยาสูบ เนื้อที่ประมาณ 430 ไร่ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ ซึ่งในปีถัดมา รัฐบาลมีโครงการจัดสร้างสวนสาธารณะบริเวณพื้นที่โรงงานยาสูบดังกล่าว เพื่อร่วมโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ และในปี 2537 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานชื่อสวนสาธารณะดังกล่าวว่า “เบญจกิติ” โดยมีการออกแบบสวนสาธารณะเป็น 2 ส่วน คือ สวนน้ำ (เนื้อที่ 130 ไร่) และสวนป่า (เนื้อที่ 300 ไร่)
ซึ่งทางกรมธนารักษ์ ได้ดำเนินการจัดสร้างสวนสาธารณะตามการส่งมอบพื้นที่ของโรงงานยาสูบแห่งประเทศไทย โดยเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2547 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสวนน้ำ สำหรับสวนป่า “เบญจกิติ” แบ่งเป็น 3 ระยะ โรงงานยาสูบแห่งประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ภายในกรอบวงเงิน 950 ล้านบาท
ทั้งนี้ การดำเนินการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่1 เนื้อที่ 61 ไร่ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 และเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2559 รัฐบาลได้จัดกิจกรรมงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 ณ พื้นที่สวนป่า “เบญจกิติ” จึงให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแลบำรุงรักษา โดยมีนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นประธานและได้ส่งมอบ
ต่อมาในปี 2562 คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบความคืบหน้าโครงการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 ตามกรอบการดำเนินงาน 4 กระบวนงาน ประกอบด้วย งานรื้อถอน งานออกแบบ งานจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการ (PMC) และงานก่อสร้าง โดยมีบริษัท สถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ จำกัด ผู้ออกแบบแผนการก่อสร้างโครงการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 เนื้อที่ประมาณ 259 ไร่ ซึ่งแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 พื้นที่ คือ พื้นที่ก่อสร้างที่1 ช่วง 8 เดือนแรก จะก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2564 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2564
ส่วนพื้นที่ก่อสร้างที่ 2 ดำเนินการในส่วนงานสวนที่เหลือ งานปรับปรุงอาคารเดิม ให้เป็นอาคารกีฬา และอาคารพิพิธภัณฑ์ ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ภายใต้แนวคิดในการสืบสานพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการปลูกป่าในใจคน ด้วยการเป็นสวนป่าสำหรับคนเมือง (Urban Forest) สวนป่าเชิงนิเวศที่ใช้ศักยภาพจากต้นไม้เดิมในพื้นที่ที่เก็บรักษาไว้ จำนวน 1,733 ต้น และการปลูกต้นไม้เพิ่มในพื้นที่โครงการฯ 7,155 ต้น พรรณไม้ประมาณ 250 ชนิด โดยได้กำหนดพรรณไม้ใหญ่ในแต่ละจุด เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของสวนป่าให้มีความโดดเด่นให้ภายในสวนป่ามีต้นไม้หลากสี สลับและเปลี่ยนไปหมุนเวียนกันแต่ละฤดู เช่น ต้นรวงผึ้ง ชมพูพันธุ์ทิพย์ หางนกยูงฝรั่ง ตะเคียนทอง นนทรี ราชพฤกษ์ เสม็ดขาว จิกน้ำ อินทนิลน้ำ รวมทั้งไม้น้ำหลากหลายชนิดพันธุ์ และเพื่อให้สวนป่าแห่งนี้สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตนเองจึงได้ออกแบบให้มีบึงน้ำ จำนวน 4 บึง เพื่อเป็นพื้นที่รองรับน้ำและจะเป็นพื้นที่รองรับน้ำขนาดใหญ่ของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ ได้ออกแบบทางเดินศึกษาธรรมชาติลัดเลาะไปตามต้นไม้ใหญ่ ระยะทางรวม 5.8 กิโลเมตร ทางวิ่งระยะทางรวม 2.8 กิโลเมตร ทางจักรยานระยะทางรม 3.4 กิโลเมตร มีแนวต้นไม้กั้นไว้ระหว่างกันให้เป็นสัดส่วน และสามารถใช้ทางเดินลอยฟ้า ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเดิน ทางวิ่ง ทางจักรยาน เชื่อมไปยังพื้นที่สวนน้ำ “เบญจกิติ” ได้
สำหรับงานสถาปัตยกรรมได้ออกแบบอาคารโรงงานผลิตยาสูบเดิมให้เป็นพิพิธภัณฑ์ มีพื้นที่สำหรับการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และปรับพื้นที่ภายในอาคารให้เปิดโล่งโดยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในอาคารมากขึ้น สำหรับอาคารโกดังเดิม จำนวน 3 หลัง ได้ปรับปรุงเป็นอาคารกีฬา โดยเปิดพื้นที่กลางอาคารให้โปร่ง โล่ง ใช้แนวคิดออกแบบอาคารเขียว รวมทั้งการออกแบบพื้นที่รองรับกิจกรรมของประชาชน บริเวณลานอัฒจันทร์ รองรับได้ 15,153 คน และลานด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ รองรับได้ 3,083 คน
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การก่อสร้างสวนป่าในพื้นที่ก่อสร้างที่1 แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนดและสามารถจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด กรมธนารักษ์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอำนวยการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ ” ซึ่งมีราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นที่ปรึกษา พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 ขอความร่วมมือจากกองทัพบก เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งในขณะนี้กองทัพบกอยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการพื้นที่ก่อสร้างที่1 ให้เสร็จทันกำหนดจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหาคม นี้
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2808 ครั้ง