มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1392 ครั้ง
“ปรเมษฐ์” ลุยฟ้อง “ประธานศาลฎีกา” สำนวนที่ 2 ปม เข้าร่วมประชุม ก.ต. ร่วมลงมติ พักราชการมิชอบ ขัด พรบ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ม.45
ผู้สื่อข่าวมีรายงาน เมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน อธิบดีศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มอบหมายทนายความ ยื่นฟ้อง นางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา เป็นจำเลยหมายเลขคดีดำที่ อท.93/2564 ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
จากกรณี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2564 มีการประชุมคณะกรรมการศาลยุติธรรม จำเลย ในฐานะประธานศาลฎีกา โดยในการประชุมดังกล่าว มีมติรับพิจารณา เรื่องพักราชการโจทก์ ในระหว่างการถูกสอบวินัยหรือไม่ ทั้งที่จำเลยทราบอยู่แล้วว่า โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง มิชอบ และมีคำสั่งให้โจทก์ไปปฏิบัติภารกิจชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ภาค 1 มิชอบ ดังนั้น จำเลยซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่จำเลยกลับเข้าร่วมประชุม และร่วมลงมติในเรื่องพักราชการโจทก์ การกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่มิชอบ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 ในมาตรา 45 บัญญัติว่า ในการประชุม ก.ต. กรรมการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องพิจารณาห้ามมิให้ผู้นั้นเข้าร่วมประชุมและลงมติในเรื่องนั้น การที่จำเลย ประธานศาลฎีกา เข้าร่วมประชุม ก.ต. และลงมติเป็นผลร้ายในเรื่องพิจารณาพักราชการโจทก์นั้น เป็นการกระทำที่ไม่ชอบ ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543 ในมาตรา 45
ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้นัดฟังคำสั่งในชั้นตรวจฟ้อง วันที่ 19 ก.ค.2564
นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อธิบดีศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 กล่าวว่า สำหรับการฟ้องประธานศาลฎีกา ในครั้งนี้ นับเป็น สำนวนที่ 2 ที่ได้ดำเนินการยื่นฟ้อง และเป็นการใช้สิทธิ์ของตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองปวงชนชาวไทย ย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญเสมอภาคกัน การฟ้องประธานศาลฎีกา ในข้อหา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 45 ที่บัญญัติว่าในการประชุม ก.ต. ถ้ากรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสีย ในเรื่องที่พิจารณาห้ามมิให้ผู้นั้นร่วมประชุมและลงมติในเรื่องนั้น เพื่อให้เป็นแนวบรรทัดฐานและมาตรฐานแก่ผู้พิพากษาในศาลยุติธรรมและสถาบันศาลยุติธรรม หากมีกรณีผู้มีอำนาจ ใช้อำนาจโดยมิชอบ ฝ่าฝืน ต่อกฎหมาย กระทำต่อผู้พิพากษาในศาลยุติธรรม ในอนาคตต่อไป
ผู้สื่อข่าวมีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายปรเมษฐ์ ได้มอบหมายให้ทนายความ ยื่นฟ้อง ประธานศาลฎีกา, สำนักงานศาลยุติธรรม และกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-5 ต่อศาลปกครองกลาง เรื่อง ขอให้เพิกถอนและยกเลิกการดำเนินการสอบสวนและสรุปความเห็นการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้น และขอให้ยกเลิกคำสั่งสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่องให้ข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมช่วยราชการ และขอให้เพิกถอนและยกเลิกคำสั่ง เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1392 ครั้ง