มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2166 ครั้ง
ความคืบหน้าคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาคดีที่ นายปรเมษฐ์ โตวิวัฒน์ อธิบดีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ยื่นฟ้องนางเมทินี ชโลธร ประธานศาลฎีกา เป็นจำเลย กรณีกล่าวหาว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีกล่าวหา แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้านแรงมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคดีนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษายกฟ้อง
ขณะที่ นายปรเมษฐ์ เตรียมใช้สิทธิ์ ในการที่จะยื่นอุทธรณ์ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิทธิเสรีภาพปวงชนชาวไทย ย่อมได้รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญเสมอภาคกัน
นอกจากคดีที่ยกฟ้องแล้ว ยังมีอีกคดี หมายเลขดำที่ อท 93/2564 ที่นายปรเมษฐ์ ยื่นฟ้องประธานศาลฎีกา ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ และละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบอีก 1 สำนวน
จากกรณีที่ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการมาตรา 45 ในการประชุม ก.ต.ห้ามไม่ให้กรรมการผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องพิจารณาเข้าร่วมประชุมและลงมติในเรื่องนั้น เพราะปกติกรรมการผู้มีส่วนได้เสียย่อมต้องรู้ดีว่าไม่สมควรเข้าไปประชุม และลงมติที่เป็นผลร้ายแก่คู่กรณีที่มีส่วนได้เสียในเรื่องนั้น
โดยในการประชุมก.ต ที่จะมีการแต่งตั้ง ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโส ของ นายปรเมษฐ์ จะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่อย่างไร เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงไม่ชอบ โดยยังไม่ได้ชี้แจงและนำพยานหลักฐานเข้าสืบแก้ตาม ภายในระยะเวลาอันสมควรตามประกาศคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ข้อ 6 วรรค 1 แล้ววรรค 2 กำหนดว่าการสอบสวนตามวรรค 1 ถูกกล่าวหามีสิทธิ์นำพยานหลักฐานในข้อที่เป็นผลร้ายนั้น เข้าสืบแก้ในข้อที่เป็นผลร้ายนั้น และข้อ 9 เมื่อเสร็จสิ้นการสอบสวนข้อเท็จจริงในชั้นต้นแล้ว คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต้อง แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาในข้อที่เป็นผลร้ายแล้ว ให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแล้วนำพยานหลักฐานเข้าสืบแก้ในข้อที่เป็นผลร้าย แต่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดำเนินการสอบสวนไม่ชอบตามกฎหมาย
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2166 ครั้ง