มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1592 ครั้ง
ส.ส.พปชร. นครศรีฯ ซัดกรณี รมช.สธ. ตรวจเยี่ยม “รพ.ปากพนัง” 10 ปีไม่เคยเห็นหน้า พอใกล้เสร็จลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ชี้หากมีความจริงใจ ขอสธ.เร่งดำเนินคดีผู้รับเหมาทิ้งงาน พร้อมจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์เสริม ช่วยยกระดับการบริการพี่น้องประชาชน
ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต 2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงกรณีที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการก่อสร้าง โรงพยาบาลปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ว่า ที่ผ่านมาการก่อสร้างโรงพยาบาลปากพนังมีปัญหามาเป็น 10 ปี จากเรื่องของผู้รับเหมาทิ้งงาน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับเสนอเป็นข้อหารือวาระเร่งด่วนต่อสภาฯ จนกระทั่งปัจจุบันการก่อสร้างได้ดำเนินการต่อจนใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าในเดือน พ.ย.64 นี้ พี่น้องประชาชน อ.ปากพนัง และพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จะมีโรงพยาบาลที่ให้บริการได้เต็มศักยภาพ
ในส่วนของปัญหาผู้รับเหมาที่ทิ้งงานนั้น มีถึง 2 รายด้วยกัน รายแรก บ.วงศ์พรหม วิศวกรรม จำกัด เริ่มสัญญาก่อสร้างกับสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช (สสจ.) วันที่ 4 ต.ค. 53 กำหนดการแล้วเสร็จ 27 ส.ค.55 การแบ่งจ่าย 14 งวด แต่พบว่าทำได้เพียงงวดที่ 6 ทำให้เสียงบประมาณการก่อสร้างประมาณ 28 ล้านบาท
ส่วนรายที่ 2 บ.ไกรสุ คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้ดำเนินการก่อสร้างต่อจากรายแรก ทำสัญญาจ้างกับ สสจ.จ.นครศรีธรรมราช เช่นเดียวกัน ในวันที่ 22 มิ.ย.58 เป็นจำนวนงวดงานทั้งหมด 8 งวด และพบว่าในงวดสุดท้ายจะขอเบิกงวดงานก่อน โดยงานยังไม่เสร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้เบิกไปแล้วตั้งแต่งวดที่ 1-7 จำนวนประมาณ 37 ล้านบาท
“ดูจากเนื้อหาข่าวที่ รมช.สาธารณสุขลงพื้นที่ ก็พบว่าเป็นข้อมูลเก่าที่ตนได้นำเสนอไปเมื่อช่วงเดือน พ.ค.63 ที่ผ่านมา ดังนั้นตนขอย้ำถึงปัญหาดังกล่าวอีกครั้ง อย่าทำอะไรแบบง่ายๆ คนลุ่มน้ำปากพนังไม่ได้โง่”
“หากท่าน มีความจริงใจต่อประชาชน ควรรีบดำเนินการเร่งรัดให้หน่วยงานในสังกัด ติดตามดำเนินคดีกับผู้รับเหมาทั้ง 2 ราย โดยชาวบ้านต่างรู้ดีว่าเป็นผู้รับเหมาในสังกัดใคร เรียกง่ายๆว่าเด็กของใคร ใครเป็นคนเอามารับงาน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน จนต้องเรี่ยไรเงิน 3 ล้านบาทมาช่วยกันสร้างโรงพยาบาลให้สามารถเปิดบริการได้ในบางส่วน ซึ่งในเรื่องนี้ตนพร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อจะเอาตัวคนโกงมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ใช่มาตรวจเยี่ยมเมื่อโครงการใกล้จะเสร็จพร้อมเปิดให้บริการแล้ว” ดร.สัณหพจน์ กล่าว
ขณะเดียวกันตนอยากฝากไปยัง กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่รับผิดชอบ จัดสรรบุคลากรแพทย์-พยาบาลเพิ่มเติมให้กับโรงพยาบาลปากพนัง เพราะหากโรงพยาบาลเสร็จสมบูรณ์แต่ขาดแพทย์และพยาบาลแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะให้บริการประชาชนใน อ.ปากพนัง และอำเภอใกล้เคียงได้อย่างเต็มศักยภาพ ทำให้ไม่แตกต่างจากที่ผ่านมา ซึ่งหากชาวบ้านเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยรุนแรง จะต้องเดินทางไกลกว่า 30 กม. เพื่อเข้ารับการรักษาที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1592 ครั้ง