มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1559 ครั้ง
โลตัส เปิดตัวสองแบรนด์คาเฟ่ Jungle Café และ Arabitia รับเทรนด์ดื่มชากาแฟที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เอาใจลูกค้าด้วยประสบการณ์ดีๆที่มากกว่าการช้อป ทั้ง Jungle Café ในร้าน โลตัส โก เฟรช และ Arabitia ในโลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ต ชูเมนูเครื่องดื่มและอาหารอินเทรนด์ อร่อยถูกใจ ผลิตจากวัตถุดิบพรีเมียมจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำหน่ายในราคาที่เอื้อมถึง
ดร.นริศ ธรรมเกื้อกูล ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มโลตัสส์ เอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นประเทศจีน กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นของเราคือการดูแลลูกค้าให้ ‘รู้สึกดีดี ทุกวันที่โลตัส’ ผ่านการจำหน่ายสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง พร้อมความสะดวกสบายในการช้อปปิ้ง ด้วยเทรนด์การบริโภคชาและกาแฟยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของการพัฒนาธุรกิจคาเฟ่ของโลตัส เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ และยกระดับประสบการณ์ลูกค้าทั้งที่มาจับจ่ายใช้สอยในสาขา และบริการจัดส่งอีกด้วย โดยได้เปิดตัวสองแบรนด์ที่ต่างมีจุดยืนที่โดดเด่น คือ แบรนด์ Jungle Café (จัลเกิ้ลคาเฟ่) จำหน่ายในสาขาขนาดกลางและเล็ก โลตัส โก เฟรช และแบรนด์ Arabitia (อราบิเทีย) จำหน่ายในสาขาขนาดใหญ่ โดยทั้งสองแบรนด์ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีหลากหลายเมนูทั้งกาแฟ ชา ช็อคโกแลต เครื่องดื่มต่างๆ จำหน่ายในราคาที่เอื้อมถึงได้ นอกจากนั้น ยังมีเบเกอรี่ที่อบสดทุกวัน และเมนูข้าวกล่องปรุงใหม่วันต่อวัน จำหน่ายอีกด้วย”
Jungle Café ร้านกาแฟรูปแบบ Convenience Store ปัจจุบันให้บริการแล้วในโลตัส โก เฟรช กว่า 1,500 สาขาทั่วประเทศ มุ้งเน้นความสะอาด สะดวก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตยุคใหม่ มีให้เลือกหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น coffee & non-coffee ซึ่งมีพระเอกอย่างกาแฟสดสุดพรีเมียมที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง ผสมความกลมกล่อมจากอาราบิก้าและโรบัสต้าอย่างลงตัว และเมนูสุดฮิตอย่างบุกแบล็คชูการ์ชานมใต้หวันแท้สุดละมุนผสมบุกอร่อยเพลินเคี้ยวหนุบหนับ
นอกจากนี้ Jungle Café เดินหน้าตอบแทนสังคม เพื่อต่อยอดจากคอนเซ็ปต์ Drink More for Forest โดยร่วมมือกับสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทยเพื่ออนุรักษ์สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อมต่อไป
Arabitia คาเฟ่สไตล์โมเดิร์น คลาสสิก ปัจจุบันตั้งอยู่ในไฮเปอร์มาร์เก็ตโลตัสกว่า 70 สาขา ทั้งในรูปแบบคาเฟ่เต็มรูปแบบ ไปจนถึงเป็นร้านขนาดเล็กที่มีอุปกรณ์เต็มรูปแบบ และ cloud kitchen สำหรับสั่งสินค้าออนไลน์ เสิร์ฟเมนูจากวัตถุดิบระดับซูเปอร์พรีเมียม ทั้งเครื่องดื่ม รวมไปถึงเบเกอรี่และอาหารพร้อมรับประทานด้วย Arabitia Café สนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในหลายพื้นที่ให้มีรายได้อย่างยั่งยืน ด้วยการรับซื้อเมล็ดกาแฟคัดสรรคุณภาพจากหลายแหล่ง อาทิ
• กาแฟน่าน สายพันธุ์ Arabica ปลูกบนพื้นที่กว่า 1,400 ไร่ของป่าต้นน้ำ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ผลผลิตจากโครงการนำมาแปรรูปแบบพิเศษ Honey Process ไม่มีน้ำเสียจากกระบวนการ ไม่สร้างผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม
• กาแฟปางขอน สายพันธุ์ Arabica ปลูกโดยวิสาหกิจชุมชนบนดอยสูงเหนือระดับน้ำทะเล โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ตามพระราชดำริบ้านปางขอน จังหวัดเชียงราย
• กาแฟดอยช้าง เฮราโมน ซึ่งหมายถึง “ความสามัคคี” ในภาษาของชนเผ่าอาข่า ปลูกโดยวิถีภูมิปัญญาชนเผ่าอาข่าบนบ้านดอยช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะที่สุดของการปลูกกาแฟในประเทศไทย ดินมีความอุดมสมบูรณ์ สูงจากระดับน้ำทะเล 1,300 – 1,500 เมตร มีความชุ่มชื้นตลอดทั้งปี ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ตั้งแต่กระบวนการเพาะกล้าจนถึงกระบวนการคั่ว ได้รับรางวัลชนะเลิศโล่พระราชทานจากการประกวนสารกาแฟประจำปี พ.ศ. 2561 ของจังหวัดเชียงราย
• กาแฟไล่โว่ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรทำงานอนุรักษ์ผืนป่า พร้อมพัฒนาการปลูกกาแฟ Robusta ของกลุ่มไปเป็นกาแฟอินทรีย์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเมล็ดกาแฟ
• กาแฟทีลอซู กาแฟ Arabica ออร์แกนิก จากความร่วมมือของมูลนิธิสืบนาคะเสถียรและชุมชนใกล้เคียง เพื่อหันมาปลูกกาแฟออร์แกนิกใต้ร่มเงาผืนป่า แทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยวและการใช้สารเคมี
นอกเหนือจากบริการเครื่องดื่มและอาหารที่ร้าน บริการจัดส่งถึงที่แล้ว Arabitia ยังมีบริการจัดเลี้ยงสำหรับโอกาสต่าง ๆ อาทิ ชุดอาหารว่างสำหรับการประชุม ชุดอาหารกลางวัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและหน่วยงานต่าง ๆ อีกด้วย
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1559 ครั้ง