กรุงเก่า เปิดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ฉลองครบ 3 ทศวรรษ มรดกโลก ท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1952 ครั้ง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 17 ธ.ค.64 ที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิด “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2564 พร้อมมอบรางวัล ภายใต้ท่องเที่ยวอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย วิถีใหม่ New Normal โดยมี นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวรายงาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเทวพงศ์พันธ์ เมืองยม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อดีตเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของชนชาติไทย และเป็นศูนย์กลางการค้าแห่งสำคัญของโลก การที่นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก ด้วยคุณลักษณะที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ที่หาได้ยากยิ่ง และมีพยานหลักฐานแสดงขนบธรรมเนียมประเพณี หรืออารยธรรมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ นอกเหนือจากโบราณสถาน โบราณวัตถุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องการเลือกสรรตำแหน่งที่ตั้งของพระนครที่เหมาะสมกับลักษณะของผังเมือง ชุมชน ที่อาศัยการสัญจรทางน้ำเป็นหลัก การใช้แม่น้ำเป็นยุทธศาสตร์ในการป้องกันเมือง ตลอดพื้นที่โดยรอบ อุดมสมบูรณ์ เป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญ นับเป็นความชาญฉลาดของบรรพบุรุษเป็นอย่างมาก

“เมื่อนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ประชาชนชาวไทยต่างมีความรู้สึกภาคภูมิใจ และยินดีกับเกียรติภูมิที่ได้รับเป็นอย่างยิ่ง ถือเสมือนหนึ่งเป็นการยอมรับความยิ่งใหญ่ของชนชาติไทยที่เจริญรุ่งเรืองมาแต่อดีต ดังนั้น ชาวไทยทุกคนจะต้องรู้ถึงคุณค่า ร่วมกันบำรุงรักษา และอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกของลูกหลานสืบไป”อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ด้าน นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ซึ่งการจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 26 ธ.ค.64 ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อเฉลิมฉลองที่ยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.34 จนถึงปีนี้เป็นปีที่ 30 หรือครบรอบ 3 ทศวรรษ สำหรับปีนี้ มีความพิเศษโดยมีเอกชนได้ขอมีส่วนร่วมในการนำ “นิทรรศการแห่งแสง” มาแสดงในงาน

นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์จากลานวัฒนธรรม นำลิเกร้อยล้าน ศรราม น้ำเพชร ลูกหลานชาวอยุธยา โขน ละครหุ่นโจหลุย และศิลปินดังสลับหมุนเวียนมาให้ความสุข อีกทั้งภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมายมาย อาทิ เช่น ขบวนแห่การเฉลิมฉลองมรดกโลก การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรสินค้า OTOP ถนนกินเส้น ถนนกินกุ้ง ลานวัฒนธรรม นิทรรศการนวัตกรรมส่วนราชการ ตลาดย้อนยุค การแสดงแสง-เสียง และอีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญคือการออกร้านกาชาด และจำหน่ายสลากกาชาดการกุศล เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีส่วนสนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

“ซึ่งการจัดงานเพื่อเป็นการตอกย้ำให้โลกรู้ว่าอยุธยามีดี ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เป็นการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม ประเพณีไทย พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมขอเชิญชวนแต่งกายผ้าไทยร่วมประกาศกึกก้องความเป็นเมืองมรดกโลก ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าว

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1952 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน