กองทัพเรือ จัดงานแถลงข่าวเปิดโครงการ “รวมใจไทยเป็นหนึ่ง” กองทัพเรือ ประจำปี 2565

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1822 ครั้ง

กองทัพเรือ เปิดโครงการ “รวมใจไทยเป็นหนึ่ง” น้อมนำแนวทางพระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ในหลวงรัชกาลที่ 9มาปฏิบัติใช้เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันนี้ (20 ธ.ค.64) พลเรือเอก ธีรกุล กาญจนะ รองผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานแถลงข่าวโครงการ “รวมใจไทยเป็นหนึ่ง” กองทัพเรือ ประจำปี 2565 ณ ห้องชมวัง อาคารราชนาวิกสภา หอประชุมกองทัพเรือ โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย รองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กร สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อิหม่ามวุฒิ นาฮิม มัสยิดยามีอุลค็อยรียะห์ ร่วมแถลงข่าว

โครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง เป็นโครงการของกองทัพเรือ ที่ได้น้อมนำแนวทางพระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปฏิบัติใช้เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ และเสริมสร้างทัศนคติที่ดีในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม และจะทำให้กลุ่มผู้นำศาสนา (ดาอี) และเยาวชน สามารถเชื่อมต่อความรู้สึกที่ดีดังกล่าวไปยังครอบครัวของตนเองและชุมชนที่อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี รวมทั้งปลูกฝังความรักชาติและความภาคภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทยให้แก่คณะเยาวชนและคณะดาอี ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอบาเจาะ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส และอำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี

โดยนำคณะเยาวชน และคณะดาอีเดินทางมาทัศนศึกษาสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวตามหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ให้การสนับสนุนโครงการ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 และมัสยิดมีอุลค็อยรียะห์ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 16 ปี จำนวน 87 รุ่น มีเยาวชนร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 3,638 คน

สำหรับในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ได้แบ่งการจัดกิจกรรมฯ จำนวน 4 ครั้ง ๆ ละ 30 คน รวม 120 คน ซึ่งจะทำให้น้อง ๆ เยาวชนได้เปิดโลกทัศน์และได้รับประสบการณ์ที่ดี จากการเดินทางไปทัศนศึกษายังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในประเทศ อันเป็นการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มเยาวชน และเป็นการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภาคเอกชนต่าง ๆ ที่ได้เห็นความสำคัญและให้ความร่วมมือสนับสนุนกิจกรรมของกองทัพเรือเป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับเป็นพลังและแรงใจสำคัญที่จะก่อให้เกิดการประสานความร่วมมือกัน ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างสันติวิธี และยั่งยืนต่อไป

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1822 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน