มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1684 ครั้ง
“อลงกรณ์” นำทีม ส.ส.ปชป. และ “ดร.เอ้ สุชัชวีร์” ลุยหาเลือกตั้งซ่อมเขต 6 สงขลา แฟนคลับประชาธิปัตย์กว่าครึ่งหมื่นเชียร์สนั่นเวทีปราศรัย เน้นนโยบายปั้นสงขลาเป็นเมืองศูนย์กลางระเบียงเศรษฐกิจชายแดนใต้เชื่อมมาเลฯ พร้อมพัฒนาสนามบินหาดใหญ่เป็นฮับการบินนานาชาติ ชู “สุภาพร” เข้าวินส.ส.หญิงคนแรกของสงขลา โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งซ่อมเขต 6 จังหวัดสงขลาเป็นไปอย่างเข้มข้น
ล่าสุด นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม.และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พล.ต.ต สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา และนายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตรัฐมนตรียุติธรรมและส.ส.อุบลราชธานี นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว อดีตส.ส.สงขลา ได้ลงหาเสียงแบบเคาะประตูบ้านช่วย นางสาวสุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์เบอร์ 1 เขต 6 สงขลา ปรากฏว่าได้รับการต้อนรับเกินคาด
โดยในช่วงเย็นวานนี้มีการปราศรัยที่วัดเทพชุมนุมในเขตเทศบาลเมืองบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ ปรากฎว่าได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม จนเก้าอี้ที่ทีมงานหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เตรียมไว้ 5 พันตัวไม่พอ ต้องยืนล้นออกมานอก ถนนบรรยากาศเป็นไปด้วยความความคึกคักมีเสียงเชียร์กระหึ่มเป็นระยะๆ
โดยนายอลงกรณ์ ได้ปราศรัยเปิดเวทีชี้แจงถึงนโยบายและวิสัยทัศน์ใหม่ๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ ในการพัฒนาจังหวัดสงขลาเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าธุรกิจของระเบียงเศรษฐกิจชายแดนใต้ “ลิมอดาซาร์” เชื่อมความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวอุตสาหกรรมการลงทุนและโลจิสติกส์ระหว่าง 5 รัฐภาคเหนือมาเลเซีย (กลันตัน เคดาห์ เปรัค ปะลิส และปีนัง) กับ 5 จังหวัดชายแดนใต้ (กลุ่มจังหวัดสงขลา สตูล ปัตตานี นราธิวาส และยะลา) ตามนโยบายเปลี่ยนบังเกอร์เป็นเคาเตอร์ การยกระดับสนามบินหาดใหญ่เป็นฮับการบินนานาชาติ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวการค้าและธุรกิจ รวมทั้งการพัฒนาสะเดา-ปาดังเบซาร์ เป็นเมืองท่าหน้าด่านแบบสมาร์ทซิตี้ ที่ทันสมัยรองรับการขยายตัวของการค้าชายแดน รวมทั้งการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลในจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเป็นฐานการแปรรูปสินค้าเกษตรมาตรฐานฮาลาล ซึ่งมีมูลค่าตลาดโลก 48 ล้านล้านบาท มีกลุ่มเป้าหมายกว่า 2 พันล้านคน จะสามารถสร้างงาน สร้างอาขีพ และขยายการค้าใหม่ๆ ได้อีกมาก
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ จะร่วมสร้างจุดเปลี่ยนสงขลาและภาคใต้สู่อนาคตที่ดีกว่าเป็นอนาคตที่เราออกแบบได้สร้างได้ด้วยแนวทางถอดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่ จะคิดจะทำแบบเดิมๆ ไม่ได้
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่า ประชาธิปัตย์ยุคอุดมการณ์ทันสมัยภายใต้การนำของหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และเลขาธิการพรรค ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน สามารถขับเคลื่อนนโยบายประกันรายได้พืชเศรษฐกิจ 5 ชนิด ได้แก่ ยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด เป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว และช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร 8 ล้านครัวเรือนๆ ละ 1.5 หมื่นบาท ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 อย่างฉับไว จนไม่มีคำปรามาสในอดีตที่ว่าประชาธิปัตย์ดีแต่พูดหรือเชื่องช้า และยังเป็นหลักของรัฐบาลในการสร้างรายได้นำเงินเข้าประเทศกว่า 8.8 ล้านล้านบาท จากการส่งออกที่เติบโต 16% เกินเป้าหมายที่รัฐบาลเคยกำหนดไว้ที่ 4% ถึง 4 เท่าตัว ทำสถิติสูงสุดในรอบ 30 ปี และยังผลักดันการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ซึ่งมีความสำคัญต่อจังหวัดสงขลา โดยข้อมูล 9 เดือน ม.ค.-ก.ย.2564 สามารถส่งออกได้ถึง 778,367 ล้านบาท ขยายตัว 38.06% แม้จะเผชิญกับวิกฤติการณ์เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารเป็นแชมป์การส่งออกจนผลโพลของประชาชนยกให้รัฐมนตรีและกระทรวงเกษตรกับกระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงที่มีผลงานเป็นที่ชื่นชอบอันดับ 1 ของประเทศ ซึ่งเป็นผลงานที่สะท้อนการทำงานยุคใหม่ ทำได้ไว ทำได้จริง เราทำได้ของพรรคประชาธิปัตย์
นายอลงกรณ์ ยังขอโอกาสให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะพรรคที่คนใต้และชาวสงขลาสนับสนุนมาโดยตลอด และหากมีความผิดพลาดพลั้งไปในอดีตก็ขอโอกาสใหม่ โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ยุคอุดมการณ์ทันสมัย กำลังสร้างจุดเปลี่ยนทางด้านการบริหารและการพัฒนาพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองที่ก้าวหน้าทันสมัย และเปิดพรรคกว้างสร้างคนใหม่ที่มีอุดมการณ์มีศักยภาพเข้ามารับใช้ประเทศชาติ เช่น ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นักบริหารมากความสามารถ วิสัยทัศน์กว้างไกล เป็นหนึ่งในผู้นำรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของประเทศไทย พรรคอนุมัติให้เป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม. และ ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคภาคใต้คนใหม่ แม้จะเป็น ส.ส.สมัยแรก แต่อยู่กับพรรคมาถึง 15 ปี เป็นนักบริหารนักพัฒนาเคยเป็นอดีตนายกอบจ.สงขลา 2 สมัย มีวิสัยทัศน์ก้าวหน้าก็ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่พรรคเมื่อเดือนที่แล้วเป็นแม่ทัพใต้
คนเก่งคนดีมีความสามารถไม่ต้องรอคิวรอพรรษา ล่าสุด คือ อจ.เมธี ลาบานูน ศิลปินล้านตลับ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส และ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล เป็นผู้หญิงเก่งและแกร่งที่พรรคคัดเลือกให้ลงสมัครครั้งนี้ตามนโยบายการสนับสนุนส่งเสริมบทบาทสตรีในทางการเมือง คุณสุภาพรหรือน้ำหอม เป็นอดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นคนรุ่นใหม่ใกล้ชิดประชาชน รู้ปัญหาพื้นที่ทำงานไวไม่ใช่คนพูดเก่งแต่พูดดีใช้โซเชียลมีเดียสื่อสารการขับเคลื่อนนโยบายและวิสัยทัศน์การพัฒนาสงขลา 6 ด้านอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม เป็นผู้หญิงพลังบวกจึงขอโอกาสจากชาวสงขลาเขต 6 เลือกเป็น ส.ส. และจะเป็นประวัติศาสตร์ของสงขลาที่จะมี ส.ส.หญิงคนแรกของจังหวัด
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1684 ครั้ง