มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 487 ครั้ง
“เฉลิมชัย” สั่งเร่งขยายผลเจาะตลาดฮาลาลมูลค่า 48 ล้านล้านบาท หลังประสบความสำเร็จในการเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับยูเออี.และดูไบ “อลงกรณ์” ผนึกมืออาชีพทุกภาคส่วนจัดตั้งคณะทำงานฮาลาลไทยแลนด์ (Thailand Halal Taskforce) ทันทีโฟกัสตลาดกลุ่มมุสลิม 2 พันล้านคน เตรียมคิกออฟโครงการระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลภาคใต้ภายในปีนี้เริ่มจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ หลังซาอุฯ ไฟเขียวนำเข้าไก่ไทย
วันนี้ (25 มี.ค.65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐานฮาลาล เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” ครั้งที่ 2/2565 ว่า ที่ประชุมมีมติให้จัดตั้งคณะทำงานฮาลาลไทยแลนด์ (Thailand Halal Taskforce) มีหน้าที่เร่งรัดการขยายความร่วมมือด้านการลงทุนและการค้าสินค้าเกษตรและอาหารมาตรฐานฮาลาล ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า 30 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขับเคลื่อนขยายผลตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ ที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาขยายความร่วมมือกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และดูไบ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการเปิดศักราชหน้าใหม่ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าการลงทุนระหว่างกัน จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทยซึ่งมีศักยภาพการผลิตและส่งออกอาหารอันดับ 13 ของโลก จะต้องเร่งเจาะตลาดประชากรมุสลิม 2 พันล้านคน รวมทั้งการร่วมลงทุนด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารฮาลาลตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ โดยคณะทำงานชุดนี้จะเดินหน้าขยายความร่วมมือในทุกมิติทางเศรษฐกิจ
รวมทั้งเร่งดำเนินการโครงการการลงทุนเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรฮาลาลใน 5 จังหวัดภาคใต้ คือ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สตูล และสงขลา ที่ได้วางงานไว้ก่อนหน้านี้ภายใต้กรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลภาคใต้ โดยจะเริ่มจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์และเกษตรพลังงาน โดยเฉพาะกรณีที่กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการจนซาอุดีอาระเบียยกเลิกการห้ามนำเข้าไก่แปรรูปจากไทยและรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีสามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียกลับสู่ภาวะปกติได้สำเร็จ
ในขณะที่วันนี้ประเทศไทยมีความร่วมมืออย่างดียิ่งเรื่องมาตรฐานฮาลาลกับกลุ่มประเทศอาหรับ (OAC) กลุ่มประเทศรอบอ่าวเปอร์เซีย (GCC) กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มประเทศเอเชียกลาง และกลุ่มประเทศแอฟริกา โดยคณะทำงานชุดนี้ประกอบไปด้วย ภาคเอกชน คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย ศูนย์ AIC สถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันอาหาร สมาคมการค้านักธุรกิจไทยมุสลิม สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สสปน.
โดยภาครัฐมีกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์เป็นแกนนำร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงอุตสาหกรรมโดยทำงานภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ทำได้ไวทำได้จริงของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ และแผนปฏิบัติการฮาลาล (Thailand Halal Blueprint) ซึ่งได้วางโครงการแผนงานและคำของบประมาณสนับสนุนไปก่อนหน้านี้แล้วและเนื่องจากเป็นวาระเร่งด่วนจึงจำเป็นที่จะต้องขอการสนับสนุนจากงบกลางหรืองบเหลือจ่ายของงบประมาณประจำปี 2565 เพื่อขับเคลื่อนงานได้รวดเร็วขึ้น
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า จากการวิจัยตลาดฮาลาลมีรายงานว่าในปี 2020 ตลาดอาหารและเครื่องดื่มฮาลาลทั่วโลก มีมูลค่า 1,533,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (48ล้านล้านบาท) และประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,285,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 71 ล้านล้านบาท) ในปี 2026 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% คิดเป็นมูลค่าเพิ่มปีละ 560 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (16.8 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่จะสามารถเพิ่มการส่งออกสร้างงานสร้างอาชีพใหม่ๆ สำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการของไทยในยุคโควิด 19
นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบภารกิจในการเดินทางไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กับดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ ใน 5 ประเด็นสำคัญ คือ 1) AIPHคัดเลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกปี พ.ศ. 2569 2) การเจรจาขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนสินค้าเกษตรและอาหาร และระบบรับรองมาตรฐานฮาลาล ทั้งนี้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ผลิตอาหารได้เพียง 20% ต้องนำเข้า 80% และสนใจที่จะร่วมลงทุนกับประเทศไทยในด้านการเกษตร 3) การตรวจเยี่ยมงานแสดงนิทรรศการระดับโลกของประเทศไทยแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลในมิติต่างๆ รวมถึงสินค้าเกษตรและอาหารของไทยในงาน World Expo 2020 Dubai 4) เยี่ยมชม Museum of the Future’ พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต ที่สื่อให้ประชาชนทั่วโลกได้ทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีก 50 ปีข้างหน้า 5) ความร่วมมือด้านโลจิสติกส์กับบริษัท DP World ของรัฐดูไบ และการส่งเสริมการค้ามาตรฐานฮาลาล กับศูนย์ส่งเสริมการค้าและการตลาดฮาลาลของยูเออี และดูไบ
พร้อมทั้ง รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการล่าสุดของคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 4 คณะ คือ 1) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์และนโยบายการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐานฮาลาลประเด็นความคืบหน้าของแผนปฏิบัติการฮาลาล (Thailand Halal Blueprint) 2) คณะอนุกรรมการส่งเสริมการค้าสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” ได้กำหนดแผนการดำเนินงานในปี 2565 มุ่งเน้นส่งเสริมสินค้าจากประเทศไทยสู่ตลาดจีน และประเทศในแถบเอเชียกลาง ในงาน China International Import Expo (CIIE) และ งาน SIAL China 3) คณะอนุกรรมการส่งเสริมการผลิตและการลงทุนเกี่ยวกับสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” รายงานความก้าวหน้าของการขับเคลื่อนโครงการต้นน้ำ และปลายน้ำ ของโครงการต้นแบบเกษตรฯ อุตสาหกรรมฮาลาลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ Halal Sustainable Economy และ โครงการพัฒนาอาหารปลอดภัย KU Safe Market และ 4) คณะอนุกรรมการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” ในพื้นที่ชายแดนใต้ เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยแนวทางการส่งเสริมเกษตรฐานรากเชื่อมโยงอุตสาหกรรมไก่แบบครบวงจรกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเดือนมีนาคม 2565 นี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังรับทราบรายงานสถานการณ์แก้ไขปัญหาเนื้อวัวปลอมปนเนื้อสุกร ซึ่งได้กำหนด 5 มาตรการเร่งด่วน ได้แก่ มาตรการสื่อสารเตือนภัยผู้บริโภค มาตรการป้องปรามผู้ค้า มาตรการปราบปรามผู้กระทำผิด มาตรการส่งเสริมมาตรฐานฮาลาล และมาตรการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) จากโรงฆ่าสัตว์ถึงผู้บริโภค นอกจากนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะให้บริการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งจากการตรวจสอบในปีงบประมาณครั้งล่าสุด มีการเก็บตัวอย่างไปแล้ว 70 ตัวอย่าง ซึ่งยังไม่พบเนื้อสุกรปลอมปนเนื้อวัว อย่างไรก็ตามกรมปศุสัตว์ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ สำนักการเกษตรต่างประเทศ สรุปผลการเจรจาหารือขยายความร่วมมือด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุนสินค้าเกษตรและอาหารในคราวเดินทางไปเยือน UAE และดูไบ พร้อมทั้งมอบฝ่ายเลขานุการฯ ให้รวบรวมสรุปข้อมูลระบบรับรองมาตรฐานฮาลาลที่มีในแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทยได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาลจากประเทศใดบ้าง และนำเสนอต่อที่ประชุมในครั้งต่อไป
สำหรับการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” ครั้งที่ 2/2565 เมื่อ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา ผ่านระบบ ZOOM Cloud Meeting มีผู้เข้าประชุม ประกอบด้วย รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร ผู้อำนวยการสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย นายชยดิฐ หุตานุวัชร์ประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมการลงทุนฮาลาล คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ศูนย์ AIC จังหวัดสงขลา) สถาบันอาหาร สมาคมการค้านักธุรกิจไทยมุสลิม สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ ศอบต. สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สนปน. หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมประชุม โดยมีนางสาวรวินันท์ ฉ่ำเฉลิม ผู้อำนวยการกองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ ทำหน้าที่เลขานุการการประชุม
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 487 ครั้ง