“อลงกรณ์” ชี้ศึกซักฟอก รบ.ประมาทไม่ได้ สถานการณ์เปราะบาง หลัง “เศรษฐกิจไทย” ถอนตัว “พรรคเล็ก” ไม่นิ่ง

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1324 ครั้ง

“อลงกรณ์” ชี้ศึกซักฟอก รบ.ประมาทไม่ได้ สถานการณ์เปราะบาง หลัง “เศรษฐกิจไทย” ถอนตัว “พรรคเล็ก” ไม่นิ่ง

อลงกรณ์ ชี้อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ประมาทไม่ได้ เพราะสถานการณ์เปราะบางจากปัญหาพรรคเศรษฐกิจไทยถอนการสนับสนุนรัฐบาล พร้อมแนะนายกฯ และ 10 รัฐมนตรี ทำตัวเหมือนผีดิบไร้อารมณ์ เลี่ยงวิวาทะ เคลียร์ซักฟอกทุกประเด็นเน้นเศรษฐกิจปมทุจริต

วันนี้ (17 ก.ค.65) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ เขียนในเฟสบุ๊คว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 10 คน ระหว่างวันที่ 19 – 22 ก.ค. โดยจะลงมติวันที่ 23 ก.ค.นี้ ถือเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งที่ 4 และครั้งสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ ซึ่งรัฐบาลจะประมาทไม่ได้ เนื่องจากปัญหาเสียงสนับสนุนรัฐบาลลดลงจากกรณีพรรคเศรษฐกิจไทยและเสียงสนับสนุนจากกลุ่มพรรคเล็กที่เป็นตัวแปรสำคัญยังไม่นิ่ง เป็นสถานการณ์ที่เปราะบางมากกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้งที่ผ่านมา

ในขณะที่กระแสทางการเมืองในปัจจุบันเอื้อต่อฝ่ายค้านใน 2 เรื่อง 1.ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ และสงครามรัสเซีย-ยูเครน 2.กระแสพรรคฝ่ายค้านดีขึ้นจากชัยชนะต่อเนื่องในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. และการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4

ดังนั้น รัฐบาลต้องผนึกเสียง 6 พรรคร่วมรัฐบาลให้เป็นเอกภาพมากที่สุด และแสวงหาเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากกลุ่มพรรคเล็ก และส.ส.ในพรรคอื่นที่ต้องการสนับสนุนรัฐบาล หรือมีเจตนาจะย้ายสังกัดมาอยู่พรรคร่วมรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะสามารถฝ่าด่านการอภิปรายครั้งนี้ไปได้

“การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เป็นโอกาสการทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งสุดท้ายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน จึงจะทุ่มเททุกสรรพกำลังในการซักฟอกครั้งนี้ โดยมุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลังการอภิปราย และสร้างบาดแผลให้กับผู้นำรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลให้มากที่สุด และลึกที่สุด โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจปากท้องและปมทุจริต เพื่อให้มีผลไปถึงการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า เมื่อสิ้นวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ หรือการเลือกตั้งในปีนี้ หากมีการยุบสภาภายหลังการประชุมเอเปค

ด้วยเหตุนี้นายกรัฐมนตรี และ 10 รัฐมนตรี ที่ถูกซักฟอกพึงใช้วิกฤติเป็นโอกาส โดยชี้แจงข้อกล่าวหาให้ชัดเจนกระชับตรงประเด็นพร้อมนำเสนอผลงานของรัฐบาล และรัฐมนตรีแต่ละคนประกอบการชี้แจง ประการสำคัญต้องทำตัวเหมือนผีดิบคือต้องไร้ความรู้สึกไร้อารมณ์และหลีกเลี่ยงการตอบโต้เพราะจะทำให้เสียสมาธิและสูญเสียเวลาโดยไม่จำเป็นในการชี้แจงทำความเข้าใจต่อสภาผู้แทนราษฏร”

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1324 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน