มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 989 ครั้ง
การลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือว่าด้วยการจัดการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนของศาลเยาวชนและครอบครัวระหว่าง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือว่าด้วยการจัดการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนของศาลเยาวชนและครอบครัว และศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเยาวชนทั่วราชอาณาจักร ระหว่าง ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 5 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
สืบเนื่องจากศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วราชอาณาจักร มุ่งเน้นบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู ให้เด็กและเยาวชนกลับตน เพื่อคืนคนดีสู่สังคม นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ให้ความสำคัญของการศึกษาและอาชีพ โดยเห็นว่า หากเด็กและเยาวชนมีการศึกษา มีอาชีพ จะสามารถลดการกระทำความผิดซ้ำได้ ในการพิจารณาคดีพบว่าเด็กหรือเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการของศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วราชอาณาจักร ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยเรียนชั้นมัธยมศึกษา บางรายใกล้จบมัธยมต้นแล้วเหลือเพียง 1 – 2 เทอม เมื่อกระทำผิดแล้วก็ไม่เรียนต่อ
ในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนกระทำผิดไม่ร้ายแรงและบิดามารดาหรือผู้ปกครองสามารถดูแลได้ ศาลอาจปล่อยตัวและมอบตัวเด็กหรือเยาวชนให้บุคคลดังกล่าวไป โดยจะมีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่ออนาคตของเด็กหรือเยาวชน และส่วนหนึ่งจะกำหนดให้เด็กหรือเยาวชนเข้าศึกษาจนจบมัธยมศึกษาตอนต้น แต่ก็พบปัญหาว่า เด็กหรือเยาวชนไม่สามารถกลับไปเรียนในระบบปกติได้ เนื่องด้วยออกจากระบบมาหลายปี เรียนไม่ทันเพื่อนรุ่นเดียวกัน หรืออายุมากกว่าเพื่อนในห้องที่จะกลับไปเรียนมีปัญหาในการปรับตัว หรือเด็กและเยาวชนไม่ใส่ใจ ไม่เห็นประโยชน์ในการเรียน แม้ว่าศาลเยาวชนจะได้ทำบันทึกความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ขยายโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนให้มีทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น กศน. อาชีวศึกษา หรือสายอาชีพ โดยไม่ต้องสอบแข่งขันและมีทุนให้เรียนฟรีก็ตาม แต่เด็กหรือเยาวชนไม่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ทำให้ไม่สามารถเข้าศึกษาต่อได้
ดังนั้น ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีเจตนาร่วมกันที่จะให้โอกาสเด็กและเยาวชนของศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วราชอาณาจักร จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อสามารถเรียนต่อด้านอาชีวศึกษาได้ โดยตกลงจะมีการจัดให้มีการประเมินหรือวัดผลการศึกษาพิเศษ โดยไม่จำต้องกลับไปนั่งเรียนสำหรับเด็กหรือเยาวชนที่กระทำความผิดขณะใกล้จบการศึกษาขึ้นโดยเฉพาะให้สามารถจบการศึกษาได้ตามต้องการ
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 989 ครั้ง