ผบ.ทร. มอบนโยบายเร่งด่วนแก่หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1908 ครั้ง

ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบนโยบายประจำปีงบประมาณ 2566 แก่หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ มุ่งสู่เป้าหมาย “กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่น และภาคภูมิใจ – The Trusted Navy”

วันนี้ (7 ต.ค.65) เวลา 13.30 น. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูเป็นเวลา 1 นาที ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ รวมถึงมีการถ่ายทอดสัญญาณ ไปยังห้องประชุมของหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือ ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและที่ประจำอยู่สำนักงานในต่างประเทศ

ในการแถลงนโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า จากสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงและสภาพปัญหาของกองทัพเรือในปัจจุบันมีความซับซ้อน ในขณะเดียวกันกองทัพเรือก็มีปัญหาสะสมบางประการ ซึ่งแม้ว่าผู้บริหารกองทัพเรือในอดีตจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการหรือสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบรรลุวิสัยทัศน์ของกองทัพเรือ ดังนั้นเพื่อเป็นการวางรากฐานให้กองทัพเรือก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงในทิศทางที่ถูกต้อง จึงนำมาสู่การกำหนดนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือประจำปีงบประมาณ 2566 ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือท่านที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างรากฐานที่มั่นคงของกองทัพเรือ และเพื่อให้กำลังพลทุกนายได้ร่วมแรงร่วมใจขับเคลื่อนนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของกองทัพเรือที่กำหนดไว้คือเป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ

สำหรับนโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปี 2566 ประกอบด้วย นโยบายเร่งด่วน 3 ด้าน และนโยบายหลัก 9 ด้าน โดยมีรายละเอียดดังนี้

นโยบายเร่งด่วน ด้านที่ 1 คือ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของกองทัพเรือ ตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ จำนวน 5 ข้อ ประกอบด้วย

ข้อ 1 การพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อาทิ การสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน โครงการตามแนวพระราชดำริที่กองทัพเรือรับผิดชอบ การเตรียมการจัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567

ข้อ 2 การพัฒนากองทัพและเสริมสร้างกำลังรบให้เป็นไปตามทิศทางยุทธศาสตร์กองทัพเรือ อาทิ การปรับปรุงโครงสร้างการจัดและแนวทางการปฏิบัติงานของ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ให้สอดคล้องกับแนวทางการใช้กำลังของกองทัพเรือ พ.ศ.2563 และการปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

ข้อ 3 การพัฒนาการฝึกเพื่อเตรียมความพร้อมของกำลังรบให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ อาทิ การดำรงการฝึกกองทัพเรือเพื่อเตรียมความพร้อมของกำลังรบและระบบอำนวยการยุทธ์ รวมทั้งทดสอบแผนป้องกันประเทศด้านทิศตะวันออกในส่วนของกองทัพเรือ การสานต่อการพัฒนาการฝึกร่วมระหว่าง กองทัพเรือ กับ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) และ หน่วยงานในเครือข่าย ศรชล. ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ

ข้อ 4 การดำรงความต่อเนื่องในการพัฒนาระบบการทำสงครามที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง โดยเพิ่มเติมการแลกเปลี่ยนข้อมูลดาวเทียมและข้อมูลภูมิสารสนเทศร่วมกับภาคเอกชน การฝึกอบรมกำลังพลและวางระบบการจัดการความรู้ ให้มีความพร้อมในการใช้งานระบบควบคุมบังคับบัญชาและสั่งการ การศึกษาแนวทางการเชื่อมโยงข้อมูลและภาพสถานการณ์ระหว่างศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ กับศูนย์ปฏิบัติการเหล่าทัพ และ ศูนย์บัญชาการทางทหาร (ศบท.) การยกระดับขีดความสามารถด้านสงครามไซเบอร์ ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ รองรับภัยคุกคามทางไซเบอร์ การเสริมสร้างและบูรณาการขีดความสามารถด้านกิจการอวกาศและดาวเทียมร่วมกับกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ การจัดทำแนวทางการพัฒนาโครงการอากาศยานไร้คนขับของกองทัพเรือทั้งระบบ

ข้อ 5 การส่งเสริมผลงานวิจัยและพัฒนาทางการทหาร ให้เป็นไปตามทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ (S – Curve 11) โดยการนำผลงานวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานมาทดลองใช้กับหน่วย การนำผลงานวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานมาทดลองใช้กับหน่วย การศึกษาและเตรียมการในการจัดสร้างเรือฟริเกต โดยอุตสาหกรรมต่อเรือภายในประเทศ การส่งเสริมการพัฒนาศูนย์นวัตกรรมทางเรือและทางทะเล ภายใต้โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

นโยบายเร่งด่วน ด้านที่ 2 คือ การเสริมสร้างความร่วมมือ กับ กองทัพเรือมิตรประเทศ เพื่อเพิ่มบทบาทนำในภูมิภาค

ข้อ 1 การดำเนินความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างสมดุล อาทิ การฟื้นฟูความสัมพันธ์และความร่วมมือกับกองทัพเรือมิตรประเทศ การดำรงความต่อเนื่องในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับกองทัพเรือ การส่งเสริมให้ผู้บังคับหน่วยกำลังระดับภูมิภาคได้มีการกระชับความร่วมมือกับผู้บังคับหน่วยกำลังที่มีพื้นที่ปฏิบัติการติดต่อกัน ทั้ง Online และ On site

ข้อ 2 การส่งเสริมให้ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) มีบทบาทนำร่วมกับหน่วยยามฝั่ง (Coast Guard) หรือ หน่วยงานความมั่นคงทางทะเลในระดับภูมิภาคและประเทศรอบบ้าน โดยส่งเสริมให้ ศรชล. เข้าร่วมกิจกรรมความร่วมมือของกองทัพเรือ กับ กองทัพเรือมิตรประเทศ

นโยบายเร่งด่วน ด้านที่ 3 คือการเสริมสร้าง การบริหารจัดการ เพื่อเรียกความเชื่อมั่น ศรัทธา ของประชาชน จำนวน 5 ข้อ

ข้อ 1 การเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความโปร่งใส ในระบบการบริหารและการใช้จ่ายงบประมาณของกองทัพเรือ ยกระดับมาตรฐานของกองทัพเรือในการดำเนินการตามการประเมินด้านคุณธรรมและความโปร่งใส หรือ ITA ปรับปรุงโครงสร้างการจัดหน่วยงานและระบบการบริหารกำลังพล เพื่อรองรับการดำเนินโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

ข้อ 2 การพัฒนาระบบการบริหารจัดการกำลังพลให้มีมาตรฐาน โดยพัฒนาระบบการประเมินสมรรถนะ (Competency) และผลการปฏิบัติงาน (Performance) กำลังพลให้มีมาตรฐาน การทบทวนและจัดทำเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพการงาน (Career Path) ของกำลังพลให้สามารถนำมาใช้ในการบริหารกำลังพลได้อย่างเป็นรูปธรรมและเป็นที่ยอมรับ

ข้อ 3 การยกระดับคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของกำลังพล ทร. โดยการพัฒนาระบบการบริหารจัดการบ้านพักข้าราชการให้มีประสิทธิภาพ สำรวจและจัดทำโครงการระยะยาวสำหรับการก่อสร้างและซ่อมแซมที่พักอาศัยของกำลังพล ตลอดจนดำเนินโครงการและกิจกรรมที่เป็นการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับกำลังพล เช่น ร้านธงฟ้าราคาประหยัด แก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับกำลังพลกองทัพเรืออย่างยั่งยืน

ข้อ 4 การส่งเสริมการตระหนักรู้ภาวะโลกร้อนและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (Bio-Circular-Green : BCG) และ การส่งเสริมเศรษฐกิจสีน้ำเงิน (Blue Economy) รวมถึงการสนับสนุนหน่วยงานของกองทัพเรือ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางทะเล ได้ตระหนักรู้ถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เช่นการลดขยะทะเลและชายฝั่ง

ข้อ 5 การเสริมสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา ของประชาชนที่มีต่อกองทัพเรือ โดยการดำรงความต่อเนื่องในการดำเนินการเชิงรุกในการแบ่งมอบความรับผิดชอบพื้นที่ต่าง ๆ ให้กับหน่วยงานของกองทัพเรือ อาทิ โครงการบ้าน วัด โรงเรียน (บวร) และคลองสวยน้ำใส บูรณาการงานประชาสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับภาคประชาชน รวมถึงการสนับสนุนการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในปี พ.ศ.2566 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามวิถีทางของประชาธิปไตย

สำหรับนโยบายหลัก 9 ด้าน มาจากยุทธศาสตร์กองทัพเรือ พ.ศ.2560 – 2580 ซึ่งเป็นแผนแม่บทการพัฒนากองทัพเรือด้านต่าง ๆ และนโยบายกองทัพเรือระยะ 5 ปี พ.ศ.2566 – 2570 มีแผนการดำเนินการที่น่าสนใจ ประกอบด้วย การปรับปรุงโครงสร้างและอัตราการจัดอัตรากำลังแทนเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ใน ศรชล. การพัฒนาระบบการศึกษาของกองทัพเรือ การพัฒนาความร่วมมือด้านการข่าวในการแลกเปลี่ยนข่าวสารด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่องในทุกมิติทั้งในและต่างประเทศ การเตรียมกำลังและใช้กำลัง โดยพัฒนาการฝึกให้มีความสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงทะเล โดยมุ่งเน้นการฝึก 6 ส่วนหลัก ได้แก่ ด้านเรือดำน้ำ ด้านการปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบก ด้านการป้องกันและควบคุมท่าเรือ ด้านการช่วยเหลือและกู้ภัยเรือดำน้ำ แนวทางการใช้กำลังของ ทร. พ.ศ.2563 และ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ การพัฒนาขีดความสามารถของฐานทัพท่าเรือและสถานีเรือต่าง ๆ และพัฒนาการฝึกด้านการส่งกำลังบำรุง การดำรงความพร้อมของระบบควบคุมบังคับบัญชาสั่งการและสถานีตรวจการณ์ (C4ISR) ตามแนวความคิดของสงครามที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (NETWOIRK CENTRIC WARFARE : NCW) การพัฒนาขีดความสามารถและกลไกความร่วมมือการบริหารจัดการภัยพิบัติของกองทัพเรือ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ การส่งเสริมการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมทางทหาร โดยให้ความสำคัญการวิจัยและพัฒนายุทโธปกรณ์หลัก/สำคัญ ที่สามารถนำไปสู่สายการผลิตและใช้ในราชการภายในกองทัพเรือ และการพัฒนาการบริหารจัดการภายในของกองทัพเรือให้มีมาตรฐานสากล เป็นองค์กรสมรรถนะสูง พร้อมปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ และ ผู้เข้ารับฟังการแถลงนโยบาย ได้ร่วมกันร้องเพลงพระนิพนธ์ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย จำนวน 3 เพลง ประกอบด้วย เพลงดาบของชาติ เดินหน้า ดอกประดู่

ทั้งนี้นโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ได้มอบให้แก่หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในวันนี้ เพื่อนำไปขับเคลื่อน โดยมุ่งหวังให้บรรลุผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม ซึ่งต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงกำลังกองของทัพเรือทุกนายนำไปปฏิบัติ โดยการมุ่งเน้นการเป็นกองทัพเรือที่มีคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใส ตรวจสอบได้ (Integrity and Transparency Organization) เพื่อนำไปสู่การเป็น กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่น ศรัทธา และภาคภูมิใจ – The Trusted Navy”

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1908 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน