มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1108 ครั้ง
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.65 เวลา 12.30 น. ที่สน.โคกคราม นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เดินทางนำหลักฐานเป็นรูปภาพและข้อความการพูดคุยผ่านแอปพลิเคชัน มามอบให้ พ.ต.ท.เดชาวัสส์ ขันกสิกรรม รอง ผกก.(สอบสวน) สน.โคกคราม เพื่อให้ตรวจสอบผู้เสียหายทั้ง 7 คน ที่เคยมาแจ้งความว่าถูกเจ้าของบ่อนอุ้มรีดเงิน 5 ล้าน
นายสันธนะ เปิดเผยว่า ตนมีข้อมูลผู้เสียหายทั้ง 7 คน เป็นแก๊งที่ตระเวนไปเล่นการพนันตามบ่อนต่างๆ ในพื้นที่ กทม. และโกงเงินบ่อนการพนันด้วยวิธีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งในวันเกิดเหตุกลุ่มผู้เสียหายมาด้วยกัน 9 คน ถูกบ่อนจับได้ 7 คน อีก 2 คนหลบหนีไปได้ ซึ่งทั้งหมดได้เงินจากการโกงพนันเสือมังกรรวม 5 วัน เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท
โดยพยานหลักฐานสำคัญคือข้อความในโทรศัพท์มือถือของหัวหน้าแก๊ง ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง “เก้า กะเทย” และอ้างตัวว่าทางบ่อนรีดเงินไปกว่า 2 ล้านบาท จึงจะนำหลักฐานเหล่านี้ไปมอบให้พนักงานสอบสวน เพื่อใช้ในการตรวจสอบแก๊งนี้ว่ามีพฤติกรรมดังกล่าวจริงหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าจากข้อมูลที่ตนได้มา ในวันเกิดเหตุไม่มีการใช้ถุงดำและทำร้ายร่างกาย ตามที่ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้
“ส่วนการที่ตนออกมาเปิดเผยข้อมูล ต้องการเตือนและให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชน ไม่ให้หลงประเด็น และไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของแก๊งเหล่านี้ ซึ่งมีสื่อบางสำนักเกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์จากเงินส่วนแบ่ง 1.8 ล้านบาท ที่บ่อนยังค้างจ่ายให้แก๊งนี้อยู่” นายสันธนะ กล่าว
นายสันธนะ กล่าวต่อว่า การที่เพจสายไหมต้องรอดออกมาช่วยเหลือ หรือเปิดเผยข้อมูลก็เป็นเรื่องดี เพราะทำให้บ่อนการพนันในกรุงเทพฯ หมดไป แต่อยากให้ทำเพื่อสังคมจริงๆ และเตือนนักพนันว่าหลังจากนี้จะไม่มีบ่อนในกรุงเทพฯ แล้ว อย่าหลงเชื่อใคร หากมีคนมาชักชวนไปเล่นการพนันตามห้องพัก หรือคอนโดมิเนียมต่างๆ อย่าไปเด็ดขาด เพราะอาจถูกโกงจนหมดตัว
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1108 ครั้ง
