มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 792 ครั้ง
“กรมคุมประพฤติ” ผนึกกำลังทุกภาคส่วน จัดการแข่งขัน Street Food สร้างอาชีพ ซีซั่น 2 ช่วยผู้ก้าวพลาดมีอาชีพ คืนคนดีกลับสู่สังคม
การแข่งขัน Street Food สร้างอาชีพ ซีซั่น 2 ในระดับจังหวัด ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานคุมประพฤติหลายแห่ง ได้บูรณาการร่วมมือกับทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยมีอาสาสมัครคุมประพฤติเป็นกำลังหลักในการช่วยขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว อาทิ ชมรมอาสาสมัครคุมประพฤติจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุดรธานี และ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จัดมหกรรมประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ ซีซั่น 2 ระดับจังหวัด โดยมีทีมเข้าแข่งขันแบ่งเป็นอาหารคาว จำนวน 4 ทีม อาหารหวาน จำนวน 4 ทีม และภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการจากส่วนราชการต่างๆ บูธจำหน่ายสินค้าจากอาสาสมัครคุมประพฤติและภาคเอกชน จำนวน 20 บูธ โดยมี นายเจนเจตน์ เจนนาวิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด
ด้านสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดยะลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงยุติธรรม คณะกรรมการการจัดการประกวด ตลอดจนอาสาสมัครคุมประพฤติ ร่วมต้อนรับ พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ ปลัดจังหวัดยะลา ประธานในพิธีเปิดกิจกรรมการประกวด street food สร้างอาชีพระดับจังหวัด season 2 ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประกวดอาหารในเมนูอาหารคาว “มัสมั่นไก่” จำนวน 3 ราย และอาหารหวานในเมนูขนม “บัวลอย” จำนวน 2 ราย
นอกจากนี้ ยังมีสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเลย และ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ได้ร่วมกับอาสาสมัครคุมประพฤติ จัดงานประกวดการทำอาหาร Street Food สร้างอาชีพ โดยได้รับการสนับสนุนการจัดกิจกรรมจากภาคเอกชนเป็นอย่างดี ทั้งนี้ โครงการ Street Food สร้างอาชีพ ของกรมคุมประพฤติ เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของหลายๆ ฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อให้โอกาสผู้ถูกคุมความประพฤติได้มีอาชีพสุจริต การเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ ใช้ต้นทุนไม่มาก และที่สำคัญอาชีพนี้ยังมีพื้นที่ให้ผู้ถูกคุมความประพฤติได้มีที่ยืนและสร้างอาชีพได้ ร้านอาหารริมทางที่รสชาติดีและปลอดภัย จึงเป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าส่งเสริม โครงการนี้นอกจากจะช่วยลดผลกระทบที่มีต่อผู้ถูกคุมความประพฤติในการหางานและริเริ่มอาชีพของตนเองแล้ว ยังจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ Street Food ของไทย เพื่อเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวได้ดีอีกด้วย
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 792 ครั้ง