มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 706 ครั้ง
ผู้บัญชาการทหารเรือ ร่วมรับร่างผู้เสียชีวิต ที่ลำเลียงโดยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ มายังสนามบินอู่ตะเภา โดยกองทัพเรือ จัดพิธีรับร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติ
วันนี้ (22 ธ.ค.65) เวลา 14.00 น. พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูง และกำลังพลในพื้นที่สัตหีบ ร่วมรับร่างผู้เสียชีวิต 6 นาย ในเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ประกอบด้วย ว่าที่ เรือเอก สามารถ แก้วผลึก, พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์, พันจ่าเอก อำนาจ พิมที, พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ, จ่าเอก จักรพงค์ พูลผล และ พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ ที่ลำเลียงโดยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ จากกองบิน 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มายังสนามบินอู่ตะเภา
จากนั้น จะเคลื่อนศพไปยังฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีทหารกองเกียรติยศรับรถขบวนเคลื่อนย้ายร่าง ตลอดเส้นทางผ่านอย่างสมเกียรติ ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นาย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยตั้งบำเพ็ญกุศล ฯ กิจการฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ
ในส่วนของสิทธิกำลังพลผู้เสียชีวิตนั้น กรณีนี้กองทัพเรือถือว่ากำลังพลดังกล่าวเป็นผู้ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จะพิจารณาบำเหน็จด้านสิทธิกำลังพลสูงสุดให้แก่กำลังพลดังกล่าว โดยจะพิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือน 3 – 5 ชั้น กับขอพระราชทานเลื่อนยศ 2 – 4 ชั้นยศ รวมทั้งเงินช่วยเหลืออื่น ๆ ตามสิทธิที่สมควรจะได้รับ โดยแยกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
ชั้นยศ นาวาตรี จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น พลเรือโท กับได้รับสิทธิกำลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 160,0000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 1,200,000 บาท
ชั้นยศ เรือเอก จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น พลเรือตรี กับได้รับสิทธิกำลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 160,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นผู้ที่มีอายุราชการและฐานเงินเดือนสูงชั้นยศ พันจ่าเอก จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น นาวาตรี กับได้รับสิทธิกำลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 135,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท
ชั้นยศ จ่าตรี – จ่าเอก จะขอเลื่อนยศและขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น พันจ่าโท – เรือตรี กับได้รับสิทธิกำลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 135,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 900,000 บาท
ในส่วนของทหารกองประจำการจะขอเลื่อนยศเป็น พันจ่าตรี กับได้รับสิทธิกำลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 100,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 600,000 บาท โดยกองทัพเรือ จะเร่งรัดการดำเนินการให้กำลังพลและครอบครัวได้รับสิทธิกำลังพลเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้นให้แก่กำลังพลและครอบครัวต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 706 ครั้ง