มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 468 ครั้ง
วันนี้ (18 ม.ค.66) พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบเงินช่วยเหลือให้แก่กำลังพลกองทัพเรือที่ได้รับบาดเจ็บและประสบภัย จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ณ อาคารเอนกประสงค์ “ป้องนภา รักษาฝั่ง” หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
จากเหตุการณ์ เรือหลวงสุโขทัย อับปางเนื่องจากสภาพอากาศคลื่นลมในทะเลรุนแรง มีคลื่นสูง ทำให้กำลังพลกองทัพเรือได้รับบาดเจ็บ สูญหาย และเสียชีวิต นั้น กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ มีความเป็นห่วงครอบครัวกำลังพลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิกำลังพล ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ครอบครัวของกำลังพลในด้านต่าง ๆ ตามระเบียบข้อบังคับอย่างเร่งด่วน โดยครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตและสูญหาย นั้น
กองทัพเรือ ได้มอบหมายให้กรมสวัสดิการทหารเรือ รวบรวมสิทธิกำลังพลที่ทายาทและครอบครัวพึงได้รับ ประกอบด้วย เงินค่าสินไหมทดแทนประกันภัยหมู่แบบ “เฉพาะกิจ” กองทัพเรือ เงินช่วยเหลือจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบ กองทัพเรือ เงินสวัสดิการสงเคราะห์ข้าราชการตามระเบียบกรมสวัสดิการทหารเรือว่าด้วยเงินสวัสดิการสงเคราะห์ข้าราชการปฏิบัติราชการชายแดน พ.ศ.2561 และเงินฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี สำหรับผู้ที่สมัครเป็นสมาชิก โดยมอบให้ทายาทและครอบครัว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนไปแล้วส่วนหนึ่ง
สำหรับในวันนี้ เป็นการมอบเงินช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือที่ได้รับบาดเจ็บและประสบภัย จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางจำนวน 76 นาย แยกเป็น กำลังพลที่รับบาดเจ็บจำนวน 27 นาย และกำลังพลที่ประสบภัยจำนวน 49 นาย
ด้าน พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดถึงการค้นหาผู้สูญหายอีก 5 นาย จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ว่า กองทัพเรือ ยังคงดำรงการค้นหาต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้ประสานไปยัง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) โดย ศรชล.ภาค 1 ศรชล.ภาค 2 ศรชล.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ศรชล.จ.ชุมพร ศรชล.จ.สุราษฎร์ธานี รวมถึง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ ตลอดจนผู้นำท้องถิ่นที่มีพื้นที่ติดชายทะเล และหน่วยกู้ภัยให้เฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ หากมีการตรวจพบวัตถุหรือสิ่งบ่งชี้ใดๆก็ตาม ขอให้แจ้งมายัง ศรชล. ของแต่ละพื้นที่ หรือที่ สายด่วน ศรชล. หมายเลขโทรศัพท์ 1465 สำหรับผลการปฏิบัติจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการพบผู้สูญหายเพิ่ม ซึ่งหากมีความคืบหน้าทางสำนักงานโฆษกกองทัพเรือ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 468 ครั้ง