มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 494 ครั้ง
วันนี้ (10 ก.พ.66) พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ให้โอวาทแก่กำลังพลชุดแพทย์ เผชิญเหตุฉุกเฉินในส่วนของกองทัพเรือ ก่อนเดินทางปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่สาธารณรัฐทูร์เคีย ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่สาธารณรัฐทูร์เคีย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวทูร์เคียเป็นจำนวนมาก ในการนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบการจัดชุดค้นหาและช่วยเหลือในเขตเมือง กับให้กระทรวงกลาโหมรับผิดชอบการจัดชุดแพทย์เผชิญเหตุ ในการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติโดย ในส่วนของชุดแพทย์กระทรวงกลาโหม มีกำหนดออกเดินทางจากประเทศไทย ในคืนวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566
ในการนี้ กองทัพเรือ ได้จัดชุดแพทย์เผชิญเหตุฉุกเฉินในการปฏิบัติร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ โดยในวันนี้ พลเรือตรี นรเสทธ์ เอื้อไพบูลย์ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารเรือพร้อมด้วย พลเรือตรี ประทีป ตังติสานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ได้นำกำลังพลชุดแพทย์เผชิญเหตุฉุกเฉินในส่วนของกองทัพเรือ จำนวน 4 นาย เข้ารับโอวาทจากผู้บัญชาการทหารเรือ ก่อนเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ประกอบด้วย เรือโท อิงครัต แสงอังศุมาลี แพทย์ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ เรือโท ไกรฤกษ์ มีแย้ม นายทหารสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ พันจ่าเอก สิทธิศาสตร์ ธรรมพิทักษ์ พยาบาลประจำห้องตรวจโรคผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ และ จ่าโท รัก ณัทณพงศ์ พยาบาลประจำห้องตรวจโรคผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลทั้ง 4 นาย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีใจความสำคัญว่า “ขอขอบคุณกรมแพทย์ทหารเรือและกำลังพลทั้ง 4 นาย ที่จะเป็นผู้แทนกองทัพเรือและประเทศไทยในภารกิจเพื่อมวลมนุษยชาติในครั้งนี้ ซึ่งทุกท่านเป็นผู้มีความรู้ทางด้านการแพทย์ ขอให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้เต็มกำลังความสามารถจนเสร็จสิ้นภารกิจที่ได้รับมอบหมาย และนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ในครั้งนี้มาพัฒนาองค์ความรู้และการปฏิบัติของเราให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ซึ่งการไปปฏิบัติงานในภูมิประเทศและสภาพอากาศที่แตกต่างจากประเทศไทย รวมทั้งความแตกต่างด้านเชื้อชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม ขออย่าได้ประมาทและหากมีสิ่งใดที่ต้องการความช่วยเหลือ ขอให้แจ้งกองทัพเรือได้ตลอดเวลา ขอเป็นกำลังใจและขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ”
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 494 ครั้ง