มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 442 ครั้ง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัลโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ พลเมืองดี และตำรวจจราจร สน.หัวหมาก กรณีใช้เครื่องช่วยชีวิต AED เข้าปฐมพยาบาลได้อย่างทันท่วงที ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 ก.พ.66 เวลาประมาณ 17.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม มีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนรามคำแหง ได้มี ส.ต.ท.ธนภูมิ ธรรมโหร ผู้บังคับหมู่ จราจร สน.หัวหมาก ปฏิหน้าที่ป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกรามคำแหง ได้แจ้งให้ ส.ต.ท.ฐิติพันธ์ รุ่งรังษี ผู้บังคับหมู่ จราจร สน.หัวหมาก ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สายตรวจจราจรให้ไปตรวจสอบ โดย ส.ต.ท.ฐิติพันธ์ฯ ได้นำเครื่อง AED หรือ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ ไปยังที่เกิดเหตุด้วย เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นหญิง 1 ราย ตรวจสอบเบื้องต้นพบสัญญาณชีพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับ พลเมืองดี และทีมอาสาสมัครกู้ภัย จึงรีบนำเครื่อง AED มาใช้ช่วยเหลือ และช่วยกันปั๊มหัวใจต่อเนื่อง ระหว่างนั้นก็ประสานขอสนับสนุนรถพยาบาล ซึ่งมีรถพยาบาลขั้นสูง (ALS) ศูนย์ส่งกลับ รพ.ตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่ร่วมกันให้การช่วยเหลือ จนผู้บาดเจ็บกลับมามีสัญญาณชีพ จึงนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงได้อย่างทันท่วงที
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในส่วนของ สน.หัวหมาก และ รพ.ตำรวจ ร่วมถึง พลเมืองดี และอาสาสมัครกู้ภัย สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติ ยกย่องสรรเสริญ “ตามโครงการทำดีมีรางวัล” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมสืบไป
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ตนขอชื่นชมในความมีไหวพริบปฏิภาณที่ดี มีจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และทันท่วงที ในการดูแลความปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาในการทำงานของตำรวจ ตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคมสืบไป ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 442 ครั้ง
