จู่โจม! “รองอธิบดีกรมคุก” ตรวจเข้มโภชนาการอาหาร-สุขอนามัยผู้ต้องขัง ตามหลักสิทธิมนุษยชน

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 696 ครั้ง

วันนี้ (4 มี.ค.66) นางสาวจุฑารัตน์ จินตกานนท์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายวิชาการ เดินทางไปตรวจราชการ ณ เรือนจำ ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้แก่ เรือนจำกลางสุรินทร์ และเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตามรูปแบบการปฏิบัติจริง ว่าด้วยมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตลอดจนโภชนาการและสุขาภิบาลอาหาร และการดูแลสุขอนามัยของผู้ต้องขังทั้งด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ ตามนโยบายของกระทรวงยุติธรรม และนโยบายของอธิบดีกรมราชทัณฑ์

โดยการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ของ นางสาวจุฑารัตน์ พบว่า เรือนจำฯดังกล่าว ได้ดำเนินการภายใต้มาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารสุขอย่างเคร่งครัด รวมถึงการดูแลบริหารจัดการ ด้านโภชนาการและสุขาภิบาล อาหาร พบว่า ข้าวสาร และอาหารดิบ ที่นำเข้าภายในเรือนจำเป็นไปตามมาตรฐานความโปร่งใสของเรือนจำ 5 ด้าน ในเรื่องของ มาตรฐานด้านข้าวสาร และมาตรฐานด้านอาหาร ซึ่งทั้งจำนวนความเหมาะสมของปริมาณ รวมถึงคุณภาพ เป็นไปตามมาตรฐาน การบริหารจัดการและการดำเนินการโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน รวมถึงผ่านการตรวจสอบจากบุคคลภายนอกที่รวมสังเกตการณ์    เช่น อาหารดิบ อันได้แก่ หมูเนื้อแดง ไก่ ผัก ไข่ไก่ และอาหารแปรรูปที่มีความสดใหม่ เป็นไปตามข้อกำหนด และมาตรฐาน อย. มีการตรวจสอบวันหมดอายุแหล่งผลิตที่ชัดเจน ซึ่งถูกต้องตามคุณลักษณะที่กำหนดในสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมรักษามาตรฐานเรื่องความสะอาดเป็นสำคัญ

โดยนางสาวจุฑารัตน์ ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลผู้ต้องขัง ทั้งด้านสุขภาพกาย และสุขภาพจิต เน้นย้ำว่าเป็นสิ่งสำคัญ ชี้ควรประสานโรงพยาบาลแม่ข่ายเข้ามาสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ได้มาตรฐาน และให้มีการบันทึกประวัติผู้ต้องขังป่วยใน OPD Card ให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพต่อไป

สำหรับการลงพื้นที่ตรวจราชการในครั้งนี้ ทำให้ได้รับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของเรือนจำฯ พร้อมทั้งให้คำแนะนำและแนวทางในการแก้ไขปัญหาแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไข้ปัญหาอย่างตรงจุดและรวดเร็ว ซึ่งต้องคำนึงถึงสุขอนามัยของผู้ต้องขังเป็นสำคัญ เพื่อให้ผู้ต้องขังทุกราย ได้รับการดูแลทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมกลับสู่สังคมภายหลังพ้นโทษได้อย่างมีคุณภาพต่อไป

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 696 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน