“อลงกรณ์” ปลื้มเกษตรกรขานรับนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าเป็นพรรคขวัญใจเกษตรกร

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 392 ครั้ง

อลงกรณ์ ปลื้มเกษตรกรขานรับนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าเป็นพรรคขวัญใจเกษตรกรผู้นำแห่งการปฏิรูปภาคเกษตร แย้มเตรียมคลอดนโยบายชุดต่อไป ยกระดับเมืองเกษตรเป็นเมืองอาหาร พลิกโฉมหน้าภาคเกษตรครั้งใหญ่นำไทยสู่มหาอำนาจทางอาหารของโลก

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคและที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ เขียนในเฟสบุ๊คและไลน์ว่า หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ประกาศ 16 นโยบาย 2 ชุดแรก ภายใต้ยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ปรากฏว่า มีเสียงสะท้อนผ่านช่องทางเฟสบุ้ค-ไลน์และเวที ฟัง-คิด-ทำ ตอบรับจากผู้นำเกษตรกร ผู้นำชาวนากลุ่มต่างๆ เช่น ศูนย์ข้าวชุมชน เกษตรแปลงใหญ่ กลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) กลุ่มแม่บ้านเกษตรสหกรณ์ สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน อาสาสมัครเกษตร (อกม.) ภาคเอกชนภาควิชาการ โดยแสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพการบริหารแบบทำได้ไวทำได้จริงของพรรคตลอด 4 ปีที่ผ่านมา

โดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้เกษตรกร นโยบายเทคโนโลยีเกษตร อินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุดทุกหมู่บ้าน นโยบายธนาคารหมู่บ้านธนาคารชุมชน 2 ล้าน นโยบายยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ 3 ล้านบาท นโยบายชาวนารับ 30,000 บาทต่อครัวเรือน นโยบายปลดล็อคพรก.ประมง นโยบายองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น 1 แสนบาท นโยบายค่าตอบแทนอกม.1 พันบาท นโยบายนมโรงเรียน 365 วัน เป็นต้นโดยมองว่าเป็นนโยบายที่สามารถเพิ่มรายได้เพิ่มผลผลิตแก้หนี้แก้จนได้ในระดับฐานรากของประเทศ ซึ่งครอบคลุมครอบครัวเกษตรกรกว่า 20 ล้านคน ภายใต้ยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ เป็นแนวทางการพัฒนาภาคเกษตรกรรมเชิงโครงสร้างและระบบแบบครบวงจรอย่างยั่งยืน ซึ่งภาคเกษตรเป็นหนึ่งในศักยภาพสำคัญที่สุดของประเทศไทยที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุด้วยว่า ยังมีนโยบายชุดต่อไปที่จะเป็นคานงัดการปฏิรูปภาคเกษตรสู่เกษตรมูลค่าสูงเพื่อยกระดับประเทศไทยจากเมืองเกษตรเป็นเมืองอาหาร ด้วย “เราตั้งเป้าให้ประชาธิปัตย์เป็นพรรคขวัญใจเกษตรกร เป็นพรรคผู้นำการปฏิรูปภาคเกษตร จึงประกาศนโยบาย 2 ชุดแรก มุ่งเน้นการสนับสนุนส่งเสริมภาคเกษตรกรรมและเกษตรกรเป็นสำคัญครอบคลุมทั้งสาขาพืช ประมงและปศุสัตว์เป็นการสานต่อผลงานการปฏิรูปภาคเกษตรกรรมของไทยตลอด 4 ปี ที่พรรคประชาธิปัตย์ บริหารกระทรวงเกษตร และกระทรวงพาณิชย์ โดยการนำของหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ และ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคและรัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ เช่นการจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC: Agritech and Innovation Center) 77 จังหวัด การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (National Agriculture Big Data Center) การพัฒนาอาหารแห่งอนาคต การยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตร การพัฒนาเกษตรแปลงย่อยเป็นเกษตรแปลงใหญ่ การส่งเสริมเกษตรอัจฉริยะ การพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในเมือง การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ การจัดตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น การพัฒนาปศุสัตว์ครบวงจร การพัฒนาผลไม้จนส่งออกทุเรียนผลสดทะลุแสนล้านบาทเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์และการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารกว่า 1.2 ล้านล้านบาทต่อปี จนเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารอันดับ 13 ของโลกแม้เผชิญกับผลกระทบและอุปสรรคจากวิกฤติโควิดและสงครามรัสเซีย-ยูเครนโดยใช้ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร4.0 และยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตสู่เกษตรมูลค่าสูง เป็นต้นซึ่งจากผลงานโดดเด่นเหล่านี้ ทำให้ในการสำรวจความคิดเห็นโดยซูเปอร์โพลเมื่อสิ้นปี 2565 สรุปว่า ที่สุดแห่งปี ที่สุดแห่งพรรคการเมือง ปี 2565 คือพรรคประชาธิปัตย์ โดยซูเปอร์โพล ระบุผลสำรวจความเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองทำงานมายาวนานในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริต พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคขวัญใจเกษตรกร เป็นพรรคการเมืองที่ถูกคาดหวังจากเกษตรกรมากที่สุดอันดับหนึ่ง

อกม.จำนวน 76,000 คน ตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรล่าสุด อีกนโยบาย คือ สานต่อนโยบายยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ 3 ล้าน ตอนนี้มีเกือบหมื่นแปลงใหญ่ นโยบายอินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุดทุกหมู่บ้านชุมชนจะทำให้การพัฒนาเกษตรอัจฉริยะ ตลาดเกษตรออนไลน์ การสื่อสารการเรียนรู้ การประชุมของเกษตรกรทำได้ครอบคลุมหมู่บ้าน/ชุมชน/โรงเรียนทั่วประเทศ ยังมีนโยบายเกษตรที่จะประกาศในชุดนโยบายต่อๆ ไปอีกครับ เช่น ศพก. ศูนย์ AIC วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร กรณี “อลงกรณ์” มีคำตอบ 1. นโยบาย 2. การบริหารแบบใหม่ ทำได้ไว ทำได้จริง 3. ผลงาน สานนโยบายต่อ ก่อนโยขายใหม่ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 392 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน