ผบ.ทร. ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลฐานทัพเรือพังงา-ร.ล.ประจวบฯ ก่อนยิงอาวุธปล่อยนำวิถี “ฮาร์พูน” การฝึกทร.ปี’66

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 718 ครั้ง

ผู้บัญชาการทหารเรือ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลฐานทัพเรือพังงา

     พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย นางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อเยี่ยมการปฏิบัติงานและบำรุงขวัญกำลังใจแก่กำลังพล ณ ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 ตำบลทับละมุ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา

     ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ ได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับอุปสรรค และข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานของฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3

     สำหรับ ฐานทัพเรือพังงา เป็นหน่วยงานหลักของกองทัพเรือในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีหน้าที่ในการส่งกำลังบำรุงแก่กำลังทางเรือของกองทัพเรือที่ออกปฏิบัติการในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน รวมทั้งดำเนินการด้านการกิจการพลเรือน การควบคุมเรือพาณิชย์ ตลอดจนการให้ความร่วมมือกับภาครัฐและการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ

     ต่อมา ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมความพร้อมของเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ก่อนการยิงอาวุธปล่อยนำวิถี ฮาร์พูน ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2566 และ เยี่ยมกำลังพล ในกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 3 ที่ปฏิบัติงานในฝั่งทะเลอันดามัน

     โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ว่า “การที่ท่านทั้งหลายยังคงปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็ง จึงเป็นสิ่งที่ผมและข้าราชการกองทัพเรือรู้สึกชื่นชมในความเสียสละของท่านที่มีต่อประเทศชาติของเรา ผมขอให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติภารกิจด้วยความไม่ประมาท เตรียมตนเองให้พร้อมที่จะรับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และจะดำเนินการสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ ขอให้กำลังพลทุกนายยึดมั่นในความเสียสละปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการปฏิบัติการใด ๆ ขอให้พิจารณาด้วยความสุขุมรอบคอบ อดทน เพื่อเป็นหลักและเป็นที่พึ่งของประชาชน ซึ่งจะนำไปสู่กองทัพเรือที่ประชาชน เชื่อมั่น และภาคภูมิใจ”

     สำหรับเรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำที่ 2 ที่กองทัพเรือขออนุมัติกระทรวงกลาโหมดำเนินการต่อขึ้นจากแบบเรือที่กองทัพเรือมีใช้ราชการ ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ ด้วยการน้อมนำและยึดถือการพึ่งพาตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยใช้แบบเรือของเรือหลวงกระบี่ ที่กองทัพเรือได้ต่อขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมพรรษา 84 พรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554 เป็นแบบพื้นฐาน

     คุณลักษณะทั่วไปของเรือ ความยาวตลอดลำ 90.50 เมตร กว้าง 13.50 เมตร ความยาวที่แนวน้ำ 83.00 เมตร กินน้ำลึก 3.70 เมตร ระวางขับน้ำไม่น้อยกว่า 1,960 ตัน ความเร็วสูงสุดไม่ต่ำกว่า 23 นอต (ที่ Full load) ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 3,500 ไมล์ทะเล (ที่ความเร็วเดินทางไม่ต่ำกว่า 15 นอต)

     ระบบอาวุธประจำเรือที่สำคัญประกอบด้วย ปืนขนาด 76/62 มิลลิเมตร แบบอัตโนมัติ รุ่น Multi Feeding Vulcano Super Rapid จำนวน 1 ระบบ ปืนกลขนาด 30 มิลลิเมตร แท่นเดี่ยว รุ่น Seahawk MSI-DS30MR จำนวน 2 กระบอกปืนกลขนาด 0.50 นิ้ว M2 จำนวน 2 กระบอก อาวุธปล่อยนำวิธีพื้นสู่พื้น Harpoon Block II แบบ Advanced Harpoon Weapon Control System 1 ระบบ จำนวน 2 แท่น แท่นละ 4 ท่อยิง สามารถออกปฏิบัติงานในทะเลอย่างต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 14 วัน โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุงเพิ่มเติม และปฏิบัติการได้ถึงสภาวะทะเลระดับ 5 (Sea State 5) นอกจากนี้ยังสามารถปฏิบัติงานร่วมกับเฮลิคอปเตอร์ขนาดไม่ต่ำกว่า 11.5 ตัน ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน รองรับกำลังพลได้ไม่น้อยกว่า 115 นาย (กำลังพลประจำเรือ 99 นาย และปฏิบัติการทางอากาศ 16 นาย)

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 718 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน