โลตัส คว้า 3 รางวัล Retail Asia Awards 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนความสำเร็จของค้าปลีกไทยในเวทีโลก

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 194 ครั้ง

โลตัส การันตีความสำเร็จการเป็นองค์กรค้าปลีกที่ได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลก คว้ารางวัล Retail Asia Awards 2023 ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยในปีนี้โลตัสรับ 3 รางวัล ได้แก่ รางวัล Hypermarket of the Year จากโครงการโลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์, รางวัล Supermarket of the Year จากโครงการโลตัส พรีเว่ (Lotus’s Privé) และรางวัล Digital Initiative of the Year จากแคมเปญ my Lotus’s NFT สะท้อนความมุ่งมั่นของโลตัสในการเป็นผู้นำค้าปลีกไทยที่เป็น SMART Community Center ศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของทุกคนในชุมชน ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนทุกเจเนอเรชั่นในยุคดิจิทัล

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า โลตัส ประสบความสำเร็จอีกครั้งในการเป็นธุรกิจค้าปลีกของไทยที่ได้รับการยกย่องในเวทีโลก โดยเราสามารถคว้า 3 รางวัลจากเวทีระดับโลก Retail Asia Awards 2023 ได้แก่ รางวัล Hypermarket of the Year จากการเปิดตัวโครงการโลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ สาขาต้นแบบ SMART Community Center ที่รองรับการใช้ชีวิตในแบบสมาร์ทในทุกมิติของคนทุกเจเนอเรชั่น บนพื้นที่รวมกว่า 47,000 ตารางเมตร รูปแบบอาคาร Semi-outdoor โดยมีครบครันทั้งทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่มีสินค้ากว่า 28,000 รายการ รวมถึงสินค้าประเภทอาหารเกือบ 13,000 รายการ ที่คัดสรรมาให้เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในย่านราชพฤกษ์ ทั้งสินค้าเกรดพรีเมียม สินค้านำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก ไปจนถึงสินค้าที่คัดสรรจากแหล่งที่ดีที่สุดทั่วประเทศไทย และศูนย์การค้าที่รวมแบรนด์ดัง ร้านอาหาร บริการ เอนเตอร์เทนเมนท์อินเทรนด์ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รอบด้าน ทั้งสายกิจกรรม สายสุขภาพ และสายเทคโนโลยี โดยโลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ เป็นสาขาต้นแบบในการปรับปรุงโลตัสสาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่ในอนาคต เพื่อให้โลตัสสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบสมาร์ทของลูกค้าในทุกพื้นที่ที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน

รางวัล Supermarket of the Year จากการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ โลตัส พรีเว่ (Lotus’s Privé) พรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีจุดยืนที่เป็นเอกลักษณ์ ในคอนเซ็ปต์ “Premium Inclusive ความพิเศษที่ใช่ สำหรับคุณ” นำร่องสาขาแห่งแรกที่โครงการไอซีเอส (ICS) มิกซ์ยูส ไลฟ์สไตล์ ทาวน์ ตรงข้าม ICONSIAM โดยนำเสนอความพรีเมียมที่สามารถเข้าถึงได้ คัดสรรสินค้าที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก ครบครันทั้งอาหารสดนำเข้า อาหารแห้งและเครื่องปรุงนำเข้า ขนมและของขบเคี้ยว สินค้าออร์แกนิก สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม และบริการเสริมพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการในสินค้าและบริการพรีเมียมคุณภาพสูง แต่ยังคงเอกลักษณ์ของโลตัสคือความคุ้มค่าที่มากกว่าราคาที่เอื้อมถึง เป็นการสร้างสรรค์แบรนด์ใหม่ที่ช่วยขยายฐานลูกค้าโลตัสให้ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการในสินค้าพรีเมียม

และรางวัล Digital Initiative of the Year จากแคมเปญ my Lotus’s NFT ฉลองระบบสมาชิกใหม่ โดยนับเป็นครั้งแรกของวงการค้าปลีกที่มีการแจก NFT Generative Art ผ่านแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART App ให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิกโลตัสในดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใครในโลก เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าในยุคดิจิทัลและตอบรับเทรนด์คริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ที่เป็นกระแสได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้น ซึ่งแคมเปญ my Lotus’s NFT ได้รับการตอบรับที่ดีมากและทำให้โลตัสได้ลูกค้าสมาชิกมายโลตัสรายใหม่กว่า 80% เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในช่วงอายุ 18-24 ปี และ 25-31 ปี โดยระยะเวลาตลอดช่วงแคมเปญ สามารถสร้าง Traffic ไปยังแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART App เพิ่มขึ้นสูงถึง 225%

“การได้รับการยอมรับจากเวทีโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนความสำเร็จของโลตัสในฐานะธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเรา ‘รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส’ ไม่ว่าจะใช้บริการในสาขาหรือช่องทางออนไลน์ นอกจากการคัดสรรสินค้าคุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่าแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับประสบการณ์การช้อปปิ้งของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยออกแบบแต่ละสาขาให้เป็น SMART Community Center ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของคนในแต่ละพื้นที่ และพร้อมรองรับความต้องการของคนในทุกเจเนอเรชั่น พร้อมใช้เทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า เพื่อเป็นค้าปลีกแบบ Omni-channel ที่ให้บริการแบบไร้รอยต่อทั้งในสาขาและแพลตฟอร์มออนไลน์” นายสมพงษ์ กล่าว

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 194 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน