มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 288 ครั้ง
นายธีรพล ขุนเมือง อดีตอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทรส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายสหกิจศึกษา เปิดเผยว่า จากการที่ มทรส. มุ่งเน้นการจัดการศึกษารูปแบบ “สหกิจศึกษา” โดยเรียนรู้ภาคทฤษฎีควบคู่การปฏิบัติอย่างเข้มข้น และปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการต่างๆ เพื่อเสริมสร้าง “ทักษะชีวิต” ได้ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อสร้างสมประสบการณ์ก่อนจบและพร้อมที่จะทำงาน คณะกรรมการกำกับนโยบายสหกิจศึกษา จึงจัดให้มี”โครงการสมรรถนะนักศึกษาในมุมมองของสถานประกอบการ” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษาได้ให้ความสำคัญในการออกฝึกปฏิบัติสหกิจ ภายใต้หัวข้อ “สหกิจศึกษาสำคัญไฉน แนวทางสู่ความสำเร็จ เรียนจบมีงานทำ” ณ ห้องประชุมอาคารสรรพวิทย์ ศูนย์นนทบุรี เขตเหนือ ซึ่งมีนักศึกษาร่วมรับฟังเต็มความจุกว่า 200 คน พร้อมถ่ายทอดไปยังศูนย์ต่างๆ ของ มทรส.ด้วย มี ศาสตราจารย์พิเศษ ชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นประธาน โดยเชิญ ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ศิษย์เก่าและเป็นอาจารย์เก่าของ มทรส. และเป็นกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ มทรส.ด้วย ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัทไทย ออโต้ ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) TAT ผู้ผลิตแม่พิมพ์โลหะ อุปกรณ์จับยึด และชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่สำหรับจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปทั่วโลก มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท มีชื่อเสียงสั่งสมมานานกว่า 30 ปี และได้ขยายบริษัทนี้เพิ่มเติมจากปทุมธานี ไปยังจังหวัดชลบุรีด้วย
ดร.พยุง กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันได้เปิดโรงงานเป็นแหล่งเรียนรู้ให้นักศึกษาและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆเข้ามาเรียนรู้งาน ตลอดจนรับนักศึกษาเข้ามาฝึกปฏิบัติกับทางบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยจะเป็นคนปฐมนิเทศด้วยตนเองทุกครั้ง เพื่อเป็นการเปลี่ยน mindset ในการทำงานจริงซึ่งแตกต่างจากการเรียนในห้องเรียน โดยเฉพาะการใช้ชีวิตในช่วง 4 เดือนในโรงงาน ซึ่งจะต้อง มีวินัย ความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์และมีความมุ่งมั่นเพื่อค้นพบตัวเองว่าจบแล้วควรทำอะไร โดยย้ำกับนักศึกษาว่า การออกไปฝึกปฏิบัตินั้นต้องเป็นสถานประกอบการที่มีมาตรฐานและมีสาขาวิชาที่ตรงกับที่เรียนหรือใกล้เคียงให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ของนักศึกษาเอง เมื่อจบแล้วสามารถทำงานได้ทันที และในปัจจุบัน มทรส.เอง ก็ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ” เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ด้วยแล้ว
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 288 ครั้ง