มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1088 ครั้ง
วันนี้ (11 ต.ค.66) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมราชทัณฑ์ ประจำปี 2566 ครบรอบ 108 ปี (13 ตุลาคม 2566) พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ คณะผู้บริหารในสังกัดกระทรวงยุติธรรม อดีตผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ และผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถาน ร่วมพิธี โดยมีพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรมราชทัณฑ์ 6 จุด พิธีพราหมณ์บวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 พิธีบำเพ็ญพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพิธีมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณ จำนวน 37 รางวัล ณ อาคารกรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี
โดยแต่เดิมมา การเรือนจำทั้งหลายในประเทศไทยได้แยกย้ายกันสังกัดอยู่ในกระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆ มากมายหลายแห่ง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) ได้มีพระบรมราชโองการให้รวมการคุกกองมหันตโทษ และลหุโทษ กับเรือนจำทั้งหลายที่กล่าวไว้ในพระราชบัญญัติลักษณะเรือนจำ ร.ศ. 120 (พ.ศ. 2444) ขึ้นเป็นกรมหนึ่ง เรียกว่า “กรมราชทัณฑ์ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2458 เพื่อระลึกถึงความสำคัญของงานราชทัณฑ์” กรมราชทัณฑ์จึงได้กำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวันสถาปนากรมราชทัณฑ์ สำหรับปีนี้มีกำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ 11 ตุลาคม 2566 โดยจะมีการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรมราชทัณฑ์ รวมถึงพิธีวางพานพุ่มหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
โดยในปีงบประมาณ 2567 ภายใต้การบริหารของ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้มอบนโยบายให้กับผู้บริหาร และผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถานทั่วประเทศ ซึ่งได้วางแนวทางและนโยบายเน้นหนักไว้ 8 มิติ ประกอบด้วย
มิติที่ 1 การดำเนินการโครงการพระราชทาน อาทิเช่น โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โครงการโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ โครงการกำลังใจในพระดำริฯ โครงการห้องสมุดพร้อมปัญญา โครงการ To Be Number One และโครงการคืนคนสุขภาพดีสู่สังคม
มิติที่ 2 ยกระดับความมั่นคง ป้องกันและปราบปรามสิ่งของต้องห้าม สร้างความปลอดภัยในเรือนจำทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัย และนำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนในการปฏิบัติงาน และให้ความสำคัญกับการฝึกวินัยให้กับผู้ต้องขัง
มิติที่ 3 พัฒนาระบบการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและหลักทัณฑวิทยา ยกระดับการดูแลสุขอนามัย การแยกคุมขัง และยกระดับ/ขยายผลการปฏิบัติตามหลัก Mandela Rules (ข้อกำหนดแมนเดลา) และ Bangkok Rules (ข้อกำหนดกรุงเทพ) รวมทั้งมาตรฐานสากลเพื่อสวัสดิภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ต้องขัง ทั้งด้านศาสนา วัฒนธรรม ความหลากหลายทางเพศ ปัจจัยเชิงบวก และเรือนจำเฉพาะทาง
มิติที่ 4 พัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้ตรงกับสภาพปัญหาของการกระทำความผิด โดยเร่งออกกฎกระทรวงการกำหนดมาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด พ.ศ….. ตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำในคดีที่เกี่ยวกับเพศ พัฒนาการจำแนก ค้นหาสภาพปัญหา สาเหตุ พร้อมพัฒนาโปรแกรมบำบัดต่าง ๆ ให้มีความเฉพาะทางและสอดคล้องกับสภาพปัญหาของแต่ละกลุ่มหรือประเภทของการกระทำผิด สร้างบรรยากาศภายในเรือนจำให้เอื้อต่อความสุข ร่วมเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง
มิติที่ 5 พัฒนาต่อยอดการศึกษาสายสามัญที่มีคุณภาพและตรงตามมาตรฐานกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมการฝึกอาชีพ ส่งเสริมการประกอบอาชีพที่ตรงกับความรู้ความสามารถ ทักษะ และคุณลักษณะ เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถเข้าสู่การแข่งขันในตลาดแรงงาน โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ
มิติที่ 6 พัฒนาระบบเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยและช่วยเหลือหลังพ้นโทษ โดยการสร้างความพร้อมให้กับผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษให้สามารถออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข ทั้งด้านการศึกษาและฝึกวิชาชีพ พร้อมยกระดับ Care Support ให้สามารถสนับสนุนการมีงานทำให้กับผู้พ้นโทษ โดยร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคส่วนต่าง ๆ เข้าช่วยเหลือ ดูแลผู้พ้นโทษอย่างเป็นองค์รวม
มิติที่ 7 ยกระดับการสร้างการยอมรับและสร้างความเชื่อมั่นของผู้ต้องขังต่อสังคม โดยการเผยแพร่ รณรงค์ สร้างการรับรู้ให้สังคมตระหนัก ยอมรับ และเห็นคุณค่าของผู้ต้องขังที่สมควรให้โอกาสทางการศึกษา การประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมอย่างปกติสุข เฉกเช่นเดียวกับพลเมืองโดยทั่วไป
มิติที่ 8 พัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อขับเคลื่อนงานราชทัณฑ์ โดยยึดหลักคุณธรรมในการบริหารงานบุคคล ให้ความสำคัญกับการมอบอำนาจในการบริหารงาน เร่งดำเนินการจัดการสำนวนดำเนินการทางวินัยเจ้าหน้าที่ ที่คงค้างให้แล้วเสร็จ พัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง สร้างขวัญกำลังใจในด้านสวัสดิการและนันทนาการ รวมถึงเร่งแก้ไขปัญหาการสรรหา บรรจุ แต่งตั้ง เพื่อทดแทนอัตราว่างให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาระบบสารสนเทศ และระบบ AI มาใช้ในการจำแนก การประเมินความเสี่ยงและพฤติกรรมของผู้ต้องขัง เพื่อการบำบัดแก้ไขฟื้นฟูให้มีประสิทธิภาพมายิ่งขึ้น
โดยกรมราชทัณฑ์ ยังคงมุ่งมั่นแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม สร้างความสงบสุขให้แก่สังคมและประเทศชาติของเรา เพราะเรือนจำไม่ใช่สถานที่ ที่มีไว้กักขังลงโทษเท่านั้น แต่เป็นที่ ที่ช่วยอบรมผู้กระทำผิด ให้กลับตัวเป็นคนดีและเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าต่อประเทศชาติของเราต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1088 ครั้ง