มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 712 ครั้ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตร เรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตย หวังเป็นแลนด์มาร์ก กระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพให้ผู้ก้าวพลาด ไม่ทำผิดซ้ำ คืนคนดีสู่สังคม
วันนี้ (4 ธ.ค.66) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดเรือนจำท่องเที่ยว “เรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตย” ในสังกัดเรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมด้วย นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายอนุพงศ์ คำภูแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมพิธี โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถาน เขต 4 ให้การต้อนรับ
สำหรับพื้นที่เรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตย สังกัดเรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภู ได้รับการบริจาคที่ดินจาก พระเทพวัชรวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อสร้างเรือนจำชั่วคราวเนื้อที่รวมจำนวน 20 ไร่ โดยมีแนวคิดสร้างเรือนจำไว้ที่วัด วัตถุประสงค์สำคัญ คือเพื่อเป็นสถานที่ควบคุม ดูแล แก้ไขพฤตินิสัย ฝึกทักษะ ส่งเสริมการประกอบอาชีพ สร้างการปรับตัว ให้แก่ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ รวมทั้งได้สนับสนุนสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ได้รับรางวัล “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ต้นแบบระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565
การเปิดเรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตย เป็นเรือนจำท่องเที่ยว เนื่องจากมีภูมิศาสตร์ และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า เหมาะแก่การดำเนินการจัดตั้งเป็นเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตร กระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเรือนจำ เป็นการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับผู้ต้องขัง อีกทั้ง ยังเป็นสถานที่ศึกษาดูงานของประชาชนทั่วไป การบริหารจัดการพื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด แบ่งออกเป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 โครงการ 1 ไร่ 1 แสน, ส่วนที่ 2 พื้นที่สวนสัตว์, ส่วนที่ 3 โคกหนองนา และส่วนที่ 4 ร้านอาหารและกาแฟ
ปัจจุบันเรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตย พร้อมเปิดให้บริการในรูปแบบเรือนจำท่องเที่ยวเชิงเกษตร จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านเข้าเยี่ยมชมและใช้บริการเรือนจำชั่วคราวบ้านห้วยเตย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการให้โอกาส และให้พื้นที่ในสังคมแก่อดีตผู้ก้าวพลาด ที่ได้ออกมาฝึกทักษะวิชาชีพในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เขาเหล่านี้ได้ปรับตัวเข้ากลับสังคมก่อนพ้นโทษ
โดยนอกเหนือจากการควบคุม ดูแล แก้ไขพฤตินิสัยผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์แล้ว สิ่งสำคัญคือการได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการมีส่วนร่วมจากชุมชนและสังคมในการช่วยเหลือภารกิจคืนคนดีสู่สังคมของกรมราชทัณฑ์ เพราะอย่างไรก็ตาม ผู้ก้าวพลาดเหล่านี้ ต้องกลับไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมภายหลังพ้นโทษ ดังนั้น กรมราชทัณฑ์จึงมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาพวกเขาเหล่านี้ให้มีทักษะอาชีพ กลับไปใช้หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ไม่หวนกลับมากระทำความผิดซ้ำ เพื่อเป็นการคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 712 ครั้ง