พ่อดีเด่นประจำปี 2566 เปิดใจเคล็ดลับดูแลลูกให้เป็นคนดี-ประสบความสำเร็จ

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 246 ครั้ง

ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ประกาศรายชื่อพ่อดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2566 รวม 35 คน ซึ่งทางคณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรม จริยธรรม ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ กำหนดจัดงาน น้อมรำลึกพ่อหลวงไทย ร่วมใจเชิดชูวัฒนธรรม โดยจัดพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่พ่อดีเด่น แห่งชาติ ที่อาคารรัฐสภา ในวัน 6 ธันวาคมนี้ เวลา 14.00 – 16.30 น. เพื่อเทิดพระเกียรติและแสดงความ จงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ทั้งนี้ ตัวแทนผู้ได้รับรางวัลพ่อดีเด่นประจำปี 2566 นายไพฑูรย์ แก้วทอง กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับ รางวัลพ่อดีเด่นในปี 2566 นี้ เพราะปีที่ผ่านๆ มา จะมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศ ส่วนตน ไม่ได้มีบทบาททางการเมืองมานานแล้ว ตอนนี้มีลูกชาย นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการเสนอชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ที่จะมีการลงคะแนนเสียงในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ตนในฐานะพ่อมักจะสอนลูกชายให้มีจิตใจที่เอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่น ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นตามโอกาสและความเหมาะสม ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน ต่างก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี แม้ตนจะเป็นนักการเมืองแต่ก็แบ่งเวลาให้กับลูกๆ พร้อมให้การศึกษาที่ดีกับทุกคน เพราะส่วนตัวตนเกิดมาจากการเป็นเด็กวัด เรียนหนังสือในโรงเรียนวัดมาตลอด แต่ก็ใช้ความมานะจนเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังนั้น ตนจึงอยากมอบการศึกษาที่ดีให้กับลูก ๆ ซึ่งวันนี้ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิต

“ส่วนการดูแลตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ ผมเป็นพ่อที่อีก 2 ปีก็อายุ 90 ปีแล้ว การจะอยู่กับลูกหลานได้นาน ๆ เราต้องดูแลตัวเองเริ่มจากอาหารการกิน บริหารร่างกายทุกวันอย่างน้อย 30 นาที บริหารสุขภาพจิตให้ดี มองโลกในแง่ดีเสมอ และเจาะเลือดตรวจสุขภาพทุก ๆ 3 เดือน เพื่อดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง จะได้ไม่เป็นภาระกับ ลูกๆ ที่ต่างก็มีหน้าที่การงานที่ต้องทำและดูแลชีวิตส่วนตัวของเขาเช่นกัน” นายไพฑูรย์ กล่าว

ด้าน นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติและขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งที่ คณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมจริยธรรม ในคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และสมาคมสมาพันธ์สถาน ประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ มีมติมอบรางวัลเชิดชูเกียรติพ่อดีเด่นแห่งชาติประจำปีพุทธศักราช 2566 ให้ตน และขอร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลพ่อดีเด่นแห่งชาติอีก 34 ท่านในโอกาสนี้ด้วย

ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาระหว่างปี 2535 – 2539 ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่องค์กรหลักของชาติ ที่ผมมีความผูกพันนี้ได้มองเห็นคุณค่าและความตั้งใจในการเลี้ยงดูบุตรของผมให้เป็นคนดีของสังคม ทั้งนี้ ผมต้องขอกล่าวถึงบุคคล สำคัญ 3 ท่าน ที่มีส่วนเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิตของผมตลอดมาจนถึงวันนี้ สองท่านแรกคือบิดามารดา ที่ได้เลี้ยงดูผมมาอย่างอบอุ่นด้วยความรักและความเอาใจใส่ สนับสนุนให้ปฏิบัติตนอยู่ในความถูกต้องและดีงาม มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณและขยันขันแข็งในการประกอบสัมมาอาชีพ รวมถึงการช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อเรามีกำลังพอที่จะทำได้ สิ่งเหล่านี้นับเป็นแบบอย่างสำคัญที่ผมได้จดจำมาอบรมสั่งสอนลูกๆ ทั้ง 5 คน ตลอดมา อีกท่านหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน คือ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ภรรยาของผม ผู้เป็นทั้งคู่ชีวิตและเป็นแม่ของลูก ๆ ทั้ง 5 คน ที่คอยเป็นกำลังใจที่สำคัญให้ผมตลอดระยะเวลากว่า 51 ปีที่ครองชีวิตคู่ร่วมเดินทางบนเส้นทางชีวิตกับผมมาโดยตลอด” นายเจริญ กล่าว

นายเจริญ กล่าวต่อว่า ตนและคุณหญิงได้ร่วมกันสร้างครอบครัวให้มั่นคง เลี้ยงดูลูก ๆ ทุกคนอย่างดีที่สุด โดยยึดหลักการเดียวกันกับที่คุณพ่อคุณแม่ของทั้งตนและคุณหญิง ทั้งนี้ คุณหญิงเองก็เข้าใจบริบททางสังคมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการให้ความสำคัญด้านการศึกษา ทำให้ลูก ๆ ทุกคนเติบโตขึ้นด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข มีความอ่อนน้อมถ่อมตน และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานตามแนวทางของแต่ละคน ดังนั้น ตนขอกล่าวว่า จะไม่มีทางได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้เลย หากปราศจากซึ่งความร่วมแรงร่วมใจกันของบุคคลทุกท่านที่ผมกล่าวถึงนี้

ขณะที่ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทางคณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมจริยธรรมฯ ที่มอบรางวัลพ่อดีเด่นให้กับตน ซึ่งตนขอมอบรางวัลนี้ให้เป็น รางวัลของครอบครัว เพราะหากไม่มีครอบครัวตนก็คงไม่ได้รับรางวัลนี้ สำหรับเคล็ดลับการดูแลกันในครอบครัว ตนจะเน้นสอนลูกอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.สอนลูกให้เป็นคนดี ผ่านการสอนและการกระทำให้เห็นเป็นตัวอย่างมาตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังสิ่งที่ถูกต้องให้กับลูก และ 2.สอนให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ตนมักจะสอนลูกว่า ไม่จำเป็นต้องชนะ หรือเก่งกว่าใคร เพียงแต่สอนให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ โดยไม่มีแรงกดดันจากครอบครัว เรื่องความสุขเป็นนามธรรมที่ไม่มีมาตรวัดเช่นเดียวกับเรื่องการเป็นคนดี ดังนั้นต้องอาศัยการปลูกฝังที่ต้องใช้เวลา ต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็กให้เขารู้จักและแยกแยะสิ่งที่ดีและไม่ดีให้ได้ สอนให้รู้จักหิริโอตัปปะ มาตรวัดความดีและความสุข เป็นเรื่องที่เขียนออกมาไม่ได้ แต่เป็นวิธีการดำรงชีวิตของเรา โดยที่ครอบครัวจะไม่สอนให้เขาต้องเป็นที่หนึ่ง หรือเอาชนะให้ได้ แต่ขอให้เป็นคนดี เรียนหนังสือดี มีจิตสำนึกที่ดี นายวิทัย กล่าว

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 246 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน