มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 524 ครั้ง
กลายเป็นข่าวคาวอีกแล้ว หลังจากเพจดังเปิดภาพ อ้างอธิการมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต พร้อมพวก บินไปประเทศอินโดนีเซีย ทำ MOU วันเดียว ที่เหลือชมเมือง เช็กอินฉ่ำ
ภาพของทีมอธิการบดี มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านรังสิต จังหวัดปทุมธานี ยืนถ่ายภาพหมู่กับภูเขาไฟในประเทศอินโดนีเซีย ที่ถูกเปิดเผยโดยเพจเฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้นำมาโพสต์พร้อมระบุว่า ทีมอธิการกับภูเขาไฟอินโด ทีมอธิการบดีมหาวิทยาลัย จ.ปทุมธานี จัดทริปไปอินโดนีเซีย อ้างทำข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการตามสูตร 3 คืน 4 วัน ระหว่างวันที่ 17-20 สิงหาคมที่ผ่านมา นั่งเครื่องบินไปลงเมืองซูราบายา แล้วดั้นด้นนั่งรถยาวๆ ไปเมืองมาลัง เช้าวันที่ 18 สิงหาคม ไปทำ MOU ความร่วมมือทางวิชาการกับ Universitas Brawijaya
ตามสเต็ป บ่ายๆ เย็นๆ เป็นภารกิจศึกษาวิถีชีวิตชุมชน วัฒนธรรมท้องถิ่น ชมบ้านชมเมือง เมืองนี้มีดีทั้งวัดเก่าแก่ มัสยิด ชายหาด น้ำตกที่สวยงาม วันถัดมาเป็นภารกิจพิชิตภูเขาไฟโบรโม่ที่โด่งดังของเมืองมาลัง เขียนกำหนดการสวยๆ ว่า ไปศึกษาการบริหารอุทยานแห่งชาติ ณ ภูเขาไฟโบรโม่ มีความอุตสาหะใฝ่หาความรู้ ตื่นกันตั้งแต่ตีหนึ่ง นั่งรถจิ๊ป 2 ชั่วโมง เดินเท้าขึ้นไปยอดเขาชมวิวปากปล่องภูเขาไฟ ดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนตีสี่ครึ่ง รุ่งเช้าอีกวันเดินทางกลับประเทศไทย คณะทัวร์ที่ไปมีอธิการบดี รองอธิการ ผู้บริหารคณะ และทีมงานคณะศิลปศาสตร์ และหลักสูตรนวัตกรรมการจัดการภาครัฐ
ขณะที่แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ระบุถึงความไม่ชอบมาพากลหลายอย่างของอธิการบดีรายนี้ หลังมีข่าวคาวเรื่องของการลวนลามบรรดาเจ้าหน้าที่ และคณาจารย์สาวในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ถึง 3 ราย แต่กลับถูกปิดข่าว แอบย่องไปเคลียร์ค่าปิดปากกันอย่างลับๆ เป็นเงินถึง 7 หลัก คูณ 3 !! แต่ข่าวคาวยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยิ่งขุดคุ้ยก็ยิ่งเจอ หลังพบว่ามีการทุจริต คอร์รัปชั่นเกิดขึ้น ทั้งในส่วนของผู้รับเหมาเจ้าของโครงการ สร้างหอพักนานาชาติ และหอพักนักศึกษา ที่ถูกรีดไถเงิน รวมถึงการล็อกสเปกเฟอร์นิเจอร์ วงเงินกว่า 20 ล้านบาท
อีกทั้งยังมีอีกหลายโครงการที่เกิดการทุจริตขึ้น แต่ก็ไม่มีใครยื่นเรื่องร้องเรียนขอตรวจสอบ เนื่องจากคณะผู้บริหารเป็นพวกพ้องของอธิการบดีคนนี้ทั้งสิ้น ส่วนเหตุผลที่ต้องทุจริตนั้น คงเดาได้ไม่ยาก เพราะต้องนำเงินไปเคลียร์ค่าปิดปากบรรดาสาวๆ ที่ถูกลวนลามก่อนหน้านี้ เพื่อให้ตนเองพ้นข้อครหา นอกจากนี้ ยังพบว่า ทางอธิการบดี ได้จัดสร้างเหรียญพระประจำมหาวิทยาลัย ที่มีตราครุฑ โดยไม่ได้ขอพระบรมราชานุญาต ซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิด ตามมาตรา 112 อีกด้วย
ทั้งนี้ ทางแหล่งข่าวรายนี้ จึงวิงวอนสื่อมวลชน ช่วยตีแผ่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบพฤติการณ์ของอธิการบดีรายนี้ รวมถึงการดำเนินงานในโครงการต่าง ๆ ว่ามีการทุจริตตามข้อมูลหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากอธิการบดีที่ถูกกล่าวอ้างนั้นอยากจะชี้แจงข้อเท็จจริง ทางสื่อมวลชนก็พร้อมที่จะนำเสนอข้อมูลสู่สาธารณชนต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 524 ครั้ง