มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 308 ครั้ง
วันนี้ (4 มี.ค.67) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมาร่วมแถลงการณ์จับกุมยาบ้า 10 ล้านเม็ด โดยมี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 ศอ.ปส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จ.สระบุรี, พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท. และ นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ปปส.ภาค 1 ให้การต้อนรับ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายายาเสพติดและทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดีและทำให้ทราบว่า นายจรัส หรือคิว อายุ 47 ปี และ นายธีรนันท์ หรือเค อายุ 45 ปี ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้สืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายจรัส หรือคิว และ นายธีรนันท์ หรือเค
ต่อมา ในวันที่ 29 ก.พ.67 จากการสืบสวนทราบว่า นายจรัส และนายธีรนันท์ ผู้ต้องหาจะใช้รถบรรทุก HINO สีขาว เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด และใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ เป็นยานพาหนะ ในการสำรวจเส้นทางด่านตรวจยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสะกดรอยติดตามจนถึงบริเวณลานจอดรถภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง (บริเวณขาเข้า กทม.) ม.3 ต.หันสัง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตนเข้าตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ยาบ้า 10,000,000 เม็ด รถบรรทุก HINO สีขาว 1 คัน (ใช้ลำเลียงยาเสพติด) 3.) รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ จำนวน 1 คัน (ใช้สำรวจเส้นทาง)
หลังจากนั้นชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายจรัส และ นายธีรนันท์ กระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
จากการสอบสวนนายจรัส และนายธีรนันท์ ให้การว่าได้ร่วมกันขับรถบรรทุกยาเสพติดเดินทางจาก จ.พะเยา มาส่งมอบให้กับผู้รับในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายจรัส จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท และนายธีรนันท์ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท และได้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งสองแล้วพบว่า นายจรัส เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในฐานความผิดเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ที่ สภ.เวียงสา จ.น่าน
พล.ต.ท.จิรสันต์ ได้กล่าวว่า “ในการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 300,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป”
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 308 ครั้ง