บุกจับกลางไลฟ์สด ‘น๊อตตี้’ อาจารย์ใบ้หวยชื่อดัง พร้อมยึดอาวุธปืน

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 290 ครั้ง

ชุดปฏิบัติการพิเศษ DE บุกจับกลางไลฟ์สด อาจารย์ใบ้หวยชื่อดัง “น๊อตตี้ ศิษย์ปู่ใหญ่” ผู้ติดตามนับล้านคน มอมเมาชักชวนให้เล่นหวยไทย ลาว ฮานอย พร้อมยึดอาวุธปืน

เมื่อวันที่ 8 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางดิจิทัล ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DE ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ณรัฐช์พงศ์ อุดมศรี ผกก.กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ในฐานะหัวหน้าชุดจับกุม พ.ต.อ.ยอดรัก ด้วนมี พ.ต.ท.สยาม นรมาตย์ พ.ต.ท.ฉัตรธีรพล แทนสง่า พ.ต.ท.ปิยะชัย มั่นคง พ.ต.ท.วีรชาติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา พ.ต.ท.อิทธิพล จันแปงเงิน พ.ต.ท.นรเดช เตชะกุลพงศ์ พ.ต.ต.นฤนาท ทิพากร ทองสอดแสง พ.ต.ต.จอมพจน์ คงศิลป์ ร.ต.อ.ธนัญชัย ศรีทันดร และผู้ช่วยพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันนำหมายจับของศาลอาญามีนบุรีและหมายค้นของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าตรวจค้นจับกุม นายนัฐพงษ์ ศุภพิตร หรือ อาจารย์น๊อตตี้ ที่ตำหนักปู่ใหญ่ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ขณะกำลังไลฟ์สดใบ้หวย ผ่านเฟซบุ๊ก ตำหนักปู่ใหญ่ อาจารย์น๊อต พาเที่ยว พร้อมยึดอาวุธปืนติดตัว พร้อมกับได้ยึดโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก และรถยนต์เป็นของกลาง

สืบเนื่องจากชุดปฏิบัติการพิเศษ DE สืบทราบว่า อาจารย์น๊อต มีพฤติกรรมหลอกลวงมอมเมาประชาชนให้เล่นหวยไทย หวยลาว หวยฮานอย โดยทำทีว่ารู้ผลหวยที่จะออกในงวดต่อไป อันเป็นความเท็จ ซึ่งความจริงแล้วผู้ต้องหาไม่รู้เลขที่จะถูก แต่ได้ทำเป็นใบ้หวยจำนวนหลายตัวในเฟซบุ๊กหลาย ๆ กลุ่มแล้วนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ ปลอม หรือบิดเบือน ไปโฆษณาในโชเชียล หลังรู้ผลการออกสลากว่าเลขหวยที่ตัวเองใบ้ถูกหลายงวดติดต่อกัน ทำให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อว่าผู้ต้องหาทราบผลล่วงหน้าจริงและสมัครเป็นสมาชิกพร้อมเสียเงิน เพื่อขอทราบเลขสลากที่จะออกในงวดถัดไป นอกจากนี้ยังพบว่ามีพฤติกรรมร่วมกับพวกเป็นผู้จัดให้มีการเล่นหรือชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเล่นการพนันออนไลน์

โดยชุดปฏิบัติการพิเศษ DE แจ้งข้อหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ปลอม บิดเบือน, ร่วมกันประกาศหรือโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อสอบสวนขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป