มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 468 ครั้ง
วันนี้ (24 เม.ย.67) ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร., พ.ต.อ.เรวัฏ นูมหันต์ ผกก.1 บก.จร., พ.ต.ท.กฤษตฤณ นิระภัย รอง ผกก.1 บก.จร., พ.ต.ท.สุรพล จันทร์สมศักดิ์ รอง ผกก.1 บก.จร., พ.ต.ต.เกรียงไกร หาญปราบ สว.งานสายตรวจ 4 กก.1 บก.จร. และ นายธวิช บุญเอี่ยม นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการพิเศษ สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.จร. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพลณพัชร์ อายุ 27 ปี พร้อมของกลางบุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 16,700 ซอง มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท แบ่งเป็นยี่ห้อ capital จำนวน 9,500 ซอง , ยี่ห้อ texas จำนวน 5,200 ซอง , ยี่ห้อ canyon จำนวน 2,000 ซอง และรถยนต์ 1 คัน ยี่ห้อ โตโยต้า วิช หมายเลขทะเบียน ขก 1171 นนทบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.จร. ตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์และจุดตรวจอาชญากรรมอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านปรีชา ถนนสุวินทวงศ์ แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ กระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 23 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า วิช หมายเลขทะเบียน ขก. 1171 นนทบุรี โดยนายพลณพัชร์ ขับเข้ามายังจุดตรวจ ท่าทางมีพิรุธ จึงขออนุญาตตรวจค้น จากการตรวจค้นพบมีลังที่ห่อด้วยถุงดำจำนวนมาก ผลการตรวจค้นพบบุหรี่ต่างประเทศบรรจุอยู่ในสัง จำนวน 16,700 ซอง
จากการสอบถาม นายพลณพัชร์ ให้การว่า ของกลางดังกล่าวตนไปรับมาจากจังหวัดสระแก้ว โดยรับจ้างขนมาจากนายตั้ง (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) เป็นผู้ว่าจ้างในราคาเที่ยวละ 10,000 บาท
โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบุหรี่แต่ละซองไม่มีอากรแสตมป์การเสียภาษีทั้งหมด จากนั้นได้ประสานเจ้าพนักงานสรรพสามิต เข้าตรวจสอบของกลางดังกล่าว ต่อมาเวลาประมาณ 00.00 น. นายธวัช บุญเทียม ตำแหน่ง นักวิชาการสรรพสามิต ชำนาญการพิเศษ สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปรามกรมสรรพสามิต ได้ตรวจสอบบุหรี่ดังกล่าว พบว่า ยาสูบทั้งหมดเป็นยาสูบที่ไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิต ไม่มีการปิดอากรแสตมป์สรรพสามิต จึงได้ร่วมกัน แจ้งข้อกล่าวหา “มีไว้เพื่อการขายซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี ม.204 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต และมีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มีได้เสียภาษี ตาม ม.203 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560” จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและทำการสืบสวนขยายผลผู้กระทำความผิดต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 468 ครั้ง
