มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 208 ครั้ง
อีสท์ วอเตอร์ แจงการส่งมอบพื้นที่และทรัพย์สินอื่น ๆ โครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกแก่กรมธนารักษ์ ได้ดำเนินการครบถ้วนตามรายการที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ในส่วนที่กรมธนารักษ์ขอคืนพื้นที่เพิ่มเติมอีกนั้น อีสท์ วอเตอร์ ได้ส่งแผนงานและอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาจากกรมธนารักษ์ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ และการบริหารจัดการน้ำภาพรวมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี และพร้อมเดินหน้าการเชื่อมโยง Water Grid ให้กลับมาสมบูรณ์ตามเดิมโดยเร็ว ย้ำความเป็นผู้นำในการสร้างความมั่นคงของการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำครบวงจรของประเทศด้วยสมาร์ทเทคโนโลยีต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
นายสมบัติ อยู่สามารถ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาอีสท์ วอเตอร์ ได้ดำเนินการตามแผนงานการส่งมอบพื้นที่และทรัพย์สินอื่น ๆ โครงการบริหารและดำเนินการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแบ่งเป็น 2 ระยะดังนี้
• วันที่ 11 เมษายน 2566 ส่งมอบทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลัง โครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก โครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล – หนองค้อและโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ – แหลมฉบัง (ระยะที่ 2)
• วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ส่งมอบทรัพย์สินตามสัญญาการบริหารและการดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 กรมธนารักษ์มีหนังสือถึงอีสท์ วอเตอร์ ยกเลิกสิทธิ์การใช้ที่ดินและขอให้คืนพื้นที่เพิ่มเติมจำนวน 4-3-21 ไร่ ในบริเวณพื้นที่โครงการหนองปลาไหล มาบตาพุด 2 และโครงการหนองปลาไหล มาบตาพุด 3 ของอีสท์ วอเตอร์ ที่ได้รับอนุญาตการใช้ที่ดินจากกรมธนารักษ์อยู่แต่เดิม อีสท์ วอเตอร์จึงได้เข้าหารือกับกรมธนารักษ์เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 และได้นำเรียนให้ทราบถึงผลกระทบ และความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อผู้ใช้น้ำ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ปัญหาและอุปสรรคที่ต้องเร่งดำเนินการ รวมถึงผลกระทบกับการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของอีอีซี และได้นำส่งแผนงานฉบับสมบูรณ์ของการส่งมอบคืนพื้นที่ โดยกรมธนารักษ์ได้รับเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ทั้งนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาและตอบกลับจากกรมธนารักษ์
อีสท์ วอเตอร์ พร้อมดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และทุกภาคส่วนในพื้นที่อีอีซี โดยให้ความสำคัญแก่ผู้ใช้น้ำและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อีอีซีเป็นหลัก โดยเร่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำเพิ่มเติมเพื่อให้โครงข่ายท่อส่งน้ำ (Water Grid) ของอีสท์ วอเตอร์ กลับมาสมบูรณ์มั่นคง และแข็งแกร่งที่สุดในภาคตะวันออก รองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น สร้างการเติบโต และเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำให้แก่พื้นที่ภาคตะวันออกอย่างยั่งยืนตลอดไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 208 ครั้ง