กองทัพเรือ จัดการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 442 ครั้ง

กองทัพเรือ จัดการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ครั้งที่ 2/2567

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ครั้งที่ 2/2567 โดยมี คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี (คตร.) ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักพระราชวัง กระทรวงกลาโหม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมศาสนา กรมศิลปากร กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า กรมอุตุนิยมวิทยา และ การไฟฟ้านครหลวง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องสุพรรณหงส์ อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

สำหรับการประชุมในวันนี้ มีสาระสำคัญคือ การติดตามความก้าวหน้าในการเตรียมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 การพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งกองทัพเรือได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดำเนินการ

ทั้งนี้ การดำเนินการที่สำคัญในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาประกอบด้วย

– ความก้าวหน้าในการซ่อมทำเรือพระราชพิธีจำนวน 52 ลำ ซึ่งหลังจากที่กองทัพเรือได้ซ่อมทำเรือและส่งมอบให้แก่กรมศิลปากรดำเนินการประดับและตกแต่งเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์รวม 14 ลำนั้น ปัจจุบันทางกรมศิลปากรได้ดำเนินการประดับและตกแต่งตัวเรือเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว

– การดำเนินการฝึกอบรมครูฝึกฝีพายเรือพระราชพิธีการฝึกกำลังฝีพายบนเขียงฝึกของหน่วยรับเรือในพื้นที่ต่าง ๆ และการฝึกกำลังพลฝีพายในหน่วยในเรือในน้ำซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการฝึกกำลังพลฝีพายในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้กำลังพลมีความคุ้นเคยกับกระแสน้ำ ฝึกการใช้สัญญาณ และทักษะต่าง ๆ ซึ่งจะทำการฝึกระหว่างวันที่ 8 ถึง 30 กรกฎาคม 2567 เป็นระยะเวลาจำนวน 15 วันงาน โดยปัจจุบันได้เปิดให้พี่น้องประชาชนที่สนใจได้เข้าชมการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด ทั้งที่บริเวณสะพานพระราม 8 และที่อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกของกำลังพลฝีพายเรือพระที่นั่ง ทั้ง 4 ลำ

– การประพันธ์กาพย์เห่เรือจำนวน 5 บท ประกอบด้วย พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา จำนวน 1 บท พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน จำนวน 4 บท โดยพลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย เป็นผู้ประพันธ์ ปัจจุบันได้ดำเนินการแต่งเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบทที่ 1 ได้รับพระบรมราชานุญาตแล้ว ส่วนบทที่ 2 ถึงบทที่ 5 อยู่ระหว่างการเสนอขอพระบรมราชานุญาต

และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567 นี้ กองทัพเรือ ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ในการอัญเชิญเรือพระที่นั่ง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช ผูกทุ่น ประกอบกาพย์เห่เรือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ณ ท่าราชวรดิฐ พร้อมทั้งจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ บริเวณพื้นที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย ในระหว่างวันที่ 28 และ 29 กรกฎาคม 2567 วันละสองรอบ รอบละ 25 นาที แบ่งเป็น วันที่ 28 ก.ค. เวลา 15.00 น. และ 20.30 น. วันที่ 29 ก.ค. เวลา 17.00 น. และ 20.00 น. โดยประชาชนสามารถรับชมนิทรรศการ และกิจกรรมดังกล่าวได้บริเวณพื้นที่พระราชกิจวินิจฉัย และอาคารราชนาวิกสภา ตามวันและเวลาดังกล่าว ยกเว้นในรอบวันที่ 28 กรกฎาคมเวลา 15.00 น. สามารถรับชม ได้เฉพาะในพื้นที่อาคารราชนาวิกสภา โดยขอความร่วมมือประชาชนใส่เสื้อเหลืองร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน

สำหรับรูปแบบการจัดขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ ใช้เรือพระราชพิธีจำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ จัดขบวนเป็น 5 ริ้ว ความยาว 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น 2,200 นาย โดยจะเริ่มทำการซ้อมย่อยเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 10 ครั้ง ดังนี้ วันที่ 1 ,8 ,15 ,22 สิงหาคม วันที่ 3 ,12 ,19 ,26 กันยายนวันที่ 1 และ 10 ตุลาคม การซ้อมใหญ่ จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 15 และ 22 ตุลาคม และซ้อมเก็บความเรียบร้อยในวันที่ 24 ตุลาคม โดยพระราชพิธีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2567

ทั้งนี้ จากการประชุมและติดตามผล กองทัพเรือมีความพร้อมในการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในการพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยสง่างามและสมพระเกียรติ