มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 134 ครั้ง
มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย (ซอยด๊อก) จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายผู้ดูแลสัตว์ชุมชนในจังหวัดภูเก็ต เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ห้องประชุมเทศบาลเมืองกะทู้ (ตึกเก่า) ภายใต้ความร่วมมือเทศบาลเมืองกะทู้ ภายในงานมีผู้เข้าร่วมงานจากหลายภาคส่วน อาทิเช่น บุคลากรจากซอยด๊อก นางสาวกิรณี นรบาล ประธานกรรมการมูลนิธิฯ นายอรรถาพงษ์ จันทรัตนวงศ์ เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ พร้อมด้วยบุคลากรจากเทศบาลเมืองกะทู้ เทศบาลเมืองป่าตอง เทศบาลตำบลวิชิต และประชาชนผู้ดูแลสัตว์ในชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต
นางสาวกิรณี นรบาล ประธานกรรมการมูลนิธิฯ กล่าวว่า เป้าหมายของโครงการนี้คือต้องการเปลี่ยนสัตว์จรจัดให้เป็นสัตว์ชุมชนเพื่อให้ชุมชนอยู่ร่วมกับสัตว์ได้อย่างสันติ และสามารถดูแลสัตว์เหล่านั้นได้อย่างเหมาะสม มีความสุข และมีสวัสดิภาพในชีวิต โดยที่ผ่านมาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ตได้ให้ความร่วมมือกับทางมูลนิธิฯ อย่างเต็มที่ในการสนับสนุนการแก้ปัญหาสัตว์จรจัดอย่างเป็นระบบ เป็นรูปธรรมและมีมนุษยธรรม นอกจากนี้ทางมูลนิธิฯ ยังได้มีหน่วยทำหมันเคลื่อนที่ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งตั้งอยู่ที่ สวนสาธารณะลานกีฬากะทู้ และมีการให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเรื่องการจัดการปัญหาสัตว์จรจัดอย่างยั่งยืน ทางมูลนิธิฯ ต้องขอขอบคุณเทศบาลเมืองกะทู้สำหรับการเอื้ออำนวยสถานที่ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าการดูแลและแก้ไขปัญหาสัตว์จรจัดเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสังคม ไม่ใช่เพียงความรับผิดชอบของผู้ใดผู้หนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนการรวมพลังของหลายภาคส่วนในการทำความดีสร้างชุมชนให้น่าอยู่
ด้านนายอรรถาพงษ์ จันทรัตนวงศ์ เลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองกะทู้ กล่าวว่า ทางเทศบาลเมืองกะทู้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสัตว์ จึงได้ให้การสนับสนุนพื้นที่สำหรับหน่วยทำหมันเคลื่อนที่ของมูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย อีกทั้งทางเทศบาลยังได้ทำงานร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนเพื่อสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิฯ ในการดูแลสัตว์ในพื้นที่ที่ผ่านมา
ทั้งนี้มูลนิธิฯ ได้มีการให้ความรู้เรื่องการดูแลและการจัดการปัญหาสัตว์จรจัดแก่ผู้ร่วมงาน เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างแรงผลักดันให้เกิดชุมชนที่ปลอดภัย ซึ่งคน สัตว์ สิ่งแวดล้อมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุขตลอดจนทำให้จังหวัดภูเก็ตเป็นที่เมืองน่าอยู่สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ถือเป็นการทำความดีเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 134 ครั้ง