8 วันปีใหม่ ยอดคุมประพฤติ 7,237 คดี ติด EM 43 ราย

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 100 ครั้ง

คุมประพฤติ เข้ม 8 วันปีใหม่ 68 ยอดคุมความประพฤติกว่า 7,237 คดี ติด EM 43 ราย เร่งตรวจประวัติบังคับใช้กฎหมายนำเข้าโปรแกรมแก้ไขฟื้นฟู

วันนี้ (4 ม.ค.68) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยสถิติคดีคุมประพฤติช่วงปีใหม่ 2568 โดยวันที่ 3 มกราคม 2568 มีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติรวมทั้งสิ้น 681 คดี โดยเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 610 คดี และคดีขับเสพ 71 คดี

สรุปยอดสะสม 8 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 – 3 มกราคม 2568 มีคดีคุมประพฤติรวม 7,237 คดี ยอดติด EM สะสม 43 ราย ดังนี้:

• คดีขับรถขณะเมาสุรา 6,927 คดี (ร้อยละ 95.72) ติด EM 41 ราย

• คดีขับเสพ 304 คดี (ร้อยละ 4.20) ติด EM 2 ราย

• คดีขับรถประมาท 4 คดี (ร้อยละ 0.05)

• คดีขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2 คดี (ร้อยละ 0.03)

จังหวัดที่มียอดสะสมคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (511 คดี) เชียงใหม่ (427 คดี) และสมุทรปราการ (359 คดี)

พ.ต.ต.สุริยา เปิดเผยว่า สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสกลนคร และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดปราจีนบุรี สาขากบินทร์บุรี ดำเนินการตามคำสั่งศาลติดอุปกรณ์ EM ให้กับผู้กระทำผิดในคดีเมาขับ จำนวน 4 ราย แม้จะเป็นการกระทำผิดครั้งแรก แต่การขับรถขณะเมาสุราถือเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน นอกจากนี้ ศาลได้สั่งคุมความประพฤติกรณีขับรถประมาท จำนวน 2 ราย และขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2 คดี โดยผู้ถูกคุมความประพฤติต้องมารายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด

สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศยังคงจัดกิจกรรมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยการผสานกำลังสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ อาสาสมัครคุมประพฤติ ผู้ถูกคุมประพฤติ และภาคีเครือข่าย ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ณ จุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้นบริเวณทางสายรองที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอุบัติเหตุ รวม 56 จุด โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 286 คน และยังเพิ่มกิจกรรมการร่วมสังเกตการณ์การจราจรและพฤติกรรมการใช้ยานพาหนะตามถนนสายหลักและถนนสายรอง ผ่านกล้อง CCTV แบบเรียลไทม์ในหลายจังหวัด เพื่อสร้างความตระหนักและให้เห็นพฤติกรรมของผู้ขับขี่ทางถนน สามารถวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ของตนเองให้กลับมาปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 100 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน