มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 136 ครั้ง
ชีวิตคนปีนเสา ไม่ใช่แค่เดินสายไฟเบอร์ออฟติกหรือติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ แต่หมายถึงการส่งมอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ราบรื่นให้แก่ลูกค้า…กว่า 26 ปี ที่ พงษ์ศักดิ์ นนทตระกูล อยู่ในวงการสื่อสารโทรคมนาคม อยู่กับการทำงานบนที่สูง ปัจจุบัน พงษ์ศักดิ์ หรือ “พี่โจ” เป็นหัวหน้างานด้านเทคนิค หนึ่งในบริษัทคู่ค้าของทรู คอร์ปอเรชั่น ทำหน้าที่ดูแลการติดตั้งและบำรุงรักษาสายไฟเบอร์ออฟติกเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์แก่ลูกค้าทรูออนไลน์ที่ปัจจุบันมีอยู่มากกว่า 3.7 ล้านราย (ข้อมูล ณ ไตรมาส4/2567) ซึ่งทุกวันจะมีเจ้าหน้าที่ออกไปปฏิบัติงาน ทั้งติดตั้งและงานซ่อมแซมถึง 1,600 คนทั่วประเทศ
“สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมบอกกับน้อง ๆ ทุกครั้ง คือ ความปลอดภัย ทุกคนต้องรักตัวเอง เราทำหน้าที่เต็มที่ แต่ต้องกลับบ้านไปหาครอบครัวอย่างปลอดภัยด้วย” พี่โจ ย้ำเสมอเขาอธิบายว่า “เราเป็นผู้รับเหมาเช่าช่วงและรับนโยบายมาจากทรู ที่ให้ความสำคัญและเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล ทีมงานทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ครบถ้วน รวมถึงนำหลักการนี้ไปใช้กับซัพพลายเออร์เจ้าอื่น ๆ ที่เราทำงานด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคน จะปฏิบัติหน้าที่ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น”
เสียงสะท้อนจากคนปีนเสา
“การปีนเสาไม่ใช่แค่เรื่องความสูง แต่เป็นเรื่องความปลอดภัย ความรับผิดชอบ และความสุขของลูกค้า” นี่คือคำพูดของ สิทธิพัฒน์ ทองพรหม – ตั้ม หนึ่งในพนักงานที่ต้องปีนเสาไฟเกือบทุกวันเพื่อเชื่อมต่อโลกออนไลน์ให้กับลูกค้า “วันหนึ่งผมรับงานขั้นต่ำ 3 งาน บางวันสูงสุด 4 – 5 งาน แต่ละวันที่ปีนเสา ก็เพื่อไปปฏิบัติภารกิจแตกต่างกัน ทั้งเดินสายติดตั้งอินเทอร์เน็ตใหม่ให้บ้านลูกค้า บางครั้งต้องปีนไปตรวจสอบ แก้ไข ซ่อมแซมสาย หรือไม่ก็ย้ายสายลงดิน เป็นงานจัดระเบียบสาย เพื่อป้องกันไม่ให้สายที่ตกหย่อนเกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถและคนบนท้องถนน และทุกครั้งที่ทำงาน ผมคิดเสมอว่าต้อง “ไม่ประมาท” เพราะสายไฟตรงหน้า มีทั้งไฟฟ้าแรงต่ำและไฟฟ้าแรงสูง ที่อาจก่อให้เกิดไฟฟ้ารั่ว ไปจนถึง Arc Flash หรือ ประกายไฟจากอาร์ค ที่ทำให้เกิดแผลไหม้รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น คือทีมงานมีการตรวจเช็กอุปกรณ์ทุกชิ้นก่อนปฏิบัติงานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ บวกกับเราเองก็ต้องปฏิบัติตามกฎเพื่อความปลอดภัยด้วย และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจ คือความห่วงใยที่หัวหน้าย้ำเสมอว่า ถ้างานไหนดูอันตรายเกินไป จะยังไม่ให้ทำ แต่จะกลับมาวางแผน หาทางออกอื่นเพื่อความปลอดภัยของเรา”
ขณะที่ ธิปบดี เตชะวรงค์สกุล – โจ้ แชร์ประสบการณ์การทำงานที่ท้าทายไปอีกขั้น ด้วยพื้นที่ที่เขารับผิดชอบคือ ลาดกระบังและหนองจอกซึ่งเต็มไปด้วยบ้านริมน้ำ และบางครั้งเสาที่ต้องปีนอยู่กลางคลอง! “บางจุดไม่มีทางเดิน ต้องพายเรือไป แล้วใช้ “ตีนผี” (อุปกรณ์ช่วยปีนเสา) ปีนขึ้นไปบนเสา ซึ่งไม่ง่ายเลย เพราะพื้นที่ทำงานแคบมาก ต้องเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้นไปอีก” และแม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่มุมที่เขารักที่สุดในงานนี้คือการได้เห็น รอยยิ้มของลูกค้า “บางบ้านทำธุรกิจ บางบ้านลูกต้องเรียนออนไลน์ พอเราแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ คือความสุขที่ผมภูมิใจ”
5P 5 พร้อม…กฎเหล็กที่ช่างปีนเสา ต้องจำให้แม่น ปลอดภัยทุกขั้นตอน
การทำงานบนที่สูง เป็นงานที่ต้องอาศัยทั้งความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ รวมถึงมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมกำหนดแนวทางในการลดความเสี่ยง ตลอดจนวิธีป้องกัน เฝ้าระวัง ตรวจสอบแก้ไข และเยียวยาร่วมกันกับคู่ค้าอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง โดยหนึ่งในหลักการสำคัญ คือ “5P 5 พร้อม” ที่ช่างปีนเสาอินเทอร์เน็ตทรู ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้บรรลุภารกิจอย่างปลอดภัย
1.Personnel / People (คนพร้อม) – สุขภาพต้องพร้อม ช่างไม่เจ็บป่วย งดดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนเพียงพอ และผ่านการอบรมด้านความปลอดภัยตามที่กำหนด
2. Planning / Procedure (แผนการดำเนินงานพร้อม) – มีขั้นตอนการปฏิบัติงานชัดเจน ก่อนปฏิบัติงานต้องมีการประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์อันตราย รวมถึงมีการขออนุญาตเข้าพื้นที่ตามที่กำหนด
3. PPE (Personal Protective Equipment) / Tools (อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลและเครื่องมืออุปกรณ์ทำงานพร้อม) – ในส่วนของงานบรอดแบนด์ อุปกรณ์ PPE ได้แก่ หมวกนิรภัย ถุงมือป้องกันกระแสไฟฟ้า รองเท้านิรภัย และเข็มขัดกันตกแบบครึ่งตัว ต้องครบ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและใช้งานได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
4. Place (พื้นที่ปฏิบัติงานพร้อม) – พื้นที่ทำงานพร้อมสำหรับปฏิบัติงาน ไม่มีความเสี่ยงแฝง ที่อาจทำให้เกิดอันตรายเมื่อเข้าพื้นที่ปฏิบัติงาน
5. Pause (พร้อมที่จะหยุดโดยไม่ลังเลหากพบความไม่ปลอดภัย) – หากพบความเสี่ยงในการปฏิบัติงานให้หยุดการดำเนินงานทันที เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันอันตราย เมื่อประเมินว่าปลอดภัยแล้วจึงเริ่มดำเนินงานใหม่อีกครั้ง
วิศรุต ประยูรคำ หัวหน้าฝ่ายอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (Health Safety Security & Supply Chain Sustainability Department – HSS&SCS) เสริมว่า “ทรู ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องความปลอดภัยของพนักงานทั้งภายในและพนักงานของคู่ค้า สะท้อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่มุ่งเน้นเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงานอย่างถูกกฎหมาย โดยยังคงเป้าหมายการเสียชีวิตจากการทำงานของพนักงานเป็นศูนย์ (Zero Fatalities) และลดอุบัติเหตุถึงขั้นหยุดงาน (Lost Time Day Accident) อย่างต่อเนื่องทุกปี โดยหน่วยงาน HSS&SCS มีหน้าที่หลักในการส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยเชิงรุกภายในองค์กร และบริหารคู่ค้า-ผู้รับเหมาตลอดซัพพลายเชนให้ปฏิบัติเป็นไปตามหลัก ESG สอดคล้องกับ DJSI และข้อกำหนด “BPM – Business Partner Management” ของทรู ที่เริ่มตั้งแต่การประเมินคุณสมบัติเบื้องต้นของคู่ค้า และเมื่อคู่ค้าผ่านการคัดเลือกแล้ว หน่วยงานพร้อมส่งเสริม จัดฝึกอบรม ตรวจสอบหน้างาน ตรวจสอบการบริหารในทุกกลุ่มคู่ค้าแยกตามความเสี่ยง พร้อมทั้งนำเสนอผลการปฏิบัติงานรายไตรมาสถึงผู้บริหารระดับสูงของทรู ซึ่งกระบวนการที่เข้มข้นทั้งหมดนี้ ทำให้ลดอุบัติเหตุในการทำงานของคู่ค้า Tier 1 และ Tier 2 ได้แก่ การตกจากที่สูงและบาดเจ็บจากไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปี 2567 สถิติพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนถึงขั้นหยุดงานและต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล จากการตกจากที่สูงลดลงเหลือ 4 ราย จาก 16 รายในปี 2566 และบาดเจ็บจากไฟฟ้าลดลงเหลือ 1 ราย จาก 2 รายในปี 2566”
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 136 ครั้ง