มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 48 ครั้ง
มูลนิธิ LIFE AI Foundation จำกัด และ สมาคมแพทย์อาสา (พ.อ.ส.) ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) อย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดตัวโครงการ “ปฏิวัติการดูแลสุขภาพ: การเปลี่ยนแปลงระบบสาธารณสุขสำหรับประชาชนชาวไทยหนึ่งล้านคน” โดยมีเป้าหมายในการยกระดับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข และนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน
ความร่วมมือนี้มุ่งเน้นไปที่ การลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ 58% ภายใน 3 ปี ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (CHD) ลง 33%-46% และลดอัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งได้ 33% นอกจากนี้ การนำ เทคโนโลยีการแพทย์เฉพาะบุคคลมาใช้ อาจช่วยให้ประเทศไทยประหยัด งบประมาณด้านสาธารณสุขได้ถึง 42,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
จุดเด่นของความร่วมมือครั้งนี้
นวัตกรรมทางเทคโนโลยี : มูลนิธิ LIFE AI Foundation จะนำแพลตฟอร์ม AI มาช่วยสนับสนุน ความปลอดภัยของข้อมูล การแพทย์แม่นยำ และการเพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพ
การขยายความร่วมมือระดับโลก : โครงการนี้จะไม่จำกัดอยู่แค่ในประเทศไทย แต่มีแผน ขยายไปยังอินโดนีเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ด้านนวัตกรรมสุขภาพระดับโลก
การสนับสนุนด้านการเงินและชุมชน : สมาคมแพทย์อาสา (พ.อ.ส.) จะเป็นผู้บริหาร การจัดสรรเงินทุน ให้กับโครงการด้านสุขภาพ พร้อมทั้งส่งเสริม การมีส่วนร่วมของประชาชน ผ่านกิจกรรมรณรงค์ การวิจัยทางการแพทย์ และโครงการนวัตกรรมด้านสุขภาพ
การสร้างเครือข่ายพันธมิตรระดับนานาชาติ : การร่วมมือกับ สถาบันการแพทย์ชั้นนำและองค์กรวิจัยระดับโลก เพื่อผลักดันความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการลงทุนใน โซลูชันสุขภาพเฉพาะบุคคล
ก้าวสำคัญของอนาคต
“ความร่วมมือนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการปฏิวัติการดูแลสุขภาพเชิงรุก ในประเทศไทยและทั่วโลก”
ดร.ต้วน เกา (Tuan Cao) ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ LIFE AI Foundation กล่าวว่า “การผสาน AI และการแพทย์แม่นยำ จะไม่เพียงช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้น แต่ยังช่วย ลดต้นทุนทางการแพทย์ และสร้างแบบอย่างด้านสุขภาพที่ยั่งยืน ซึ่งสามารถ ขยายผลไปทั่วโลกได้”
ทางด้าน ดร.เอกนัฏฐ์ เรืองเดชธนาวุฒิ และ ดร.ดิษฐ์พิเชษ สุวรรณโพธิ์ ตัวแทนจาก สมาคมแพทย์อาสา (พ.อ.ส.) เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมจากภาครัฐและประชาชน ตลอดจนการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้โครงการบรรลุผลสำเร็จสูงสุด
พันธสัญญาสู่ผลลัพธ์ระยะยาว
บันทึกข้อตกลงนี้ มีผลบังคับใช้ทันที และถือเป็นก้าวแรกของแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว ในการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน เมื่อรัฐบาล องค์กร และกองทุนระหว่างประเทศเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ผลกระทบของโครงการนี้จะ ขยายออกไปนอกเหนือจากประเทศไทย และช่วยกำหนดอนาคตของระบบสาธารณสุขระดับโลก
ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง บทบาทของประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมสุขภาพระดับภูมิภาค พร้อมปูทางไปสู่การนำโซลูชันทางการแพทย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไปใช้ในระดับนานาชาติ
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 48 ครั้ง