รมว.ยุติธรรม-อธิบดี DSI ลงพื้นที่ตึกสตง.ถล่ม ลุยเก็บหลักฐานขยายคดีนอมินี-ฮั้วประมูล

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 130 ครั้ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 เม.ย.68 ที่ตึกสตง.ถล่ม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่มฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะ รวมทั้ง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 , ผู้กำกับการ สน.บางซื่อ , เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และ วิศวกรจากกรมโยธาธิการและผังเมืองร่วมลงพื้นที่ด้วย

โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า “วันนี้เข้ามาพูดคุยในเรื่องของการบูรณาการของรัฐบาล โดยเฉพาะการดูแลช่วยเหลือญาติของผู้สูญหาย และมีความหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิต ซึ่งต้องทำตามขั้นตอน โดยให้อำนาจของกรุงเทพมหานคร ในการจัดการ ส่วนเรื่องกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจนครบาล ก็ดูเรื่องการชันสูตรพลิกศพ รวมทั้งความผิดทางอาญาในเรื่องการกระทำโดยประมาทและเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต ในส่วนของดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว 2 เรื่อง คือ การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่เรียกว่า “นอมินี” และเรื่องความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 7 และ มาตรา 8 ที่เกี่ยวข้องกับเอกชน ยังไม่รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะหากถึงเจ้าหน้าที่รัฐก็จะเป็นอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

สิ่งสำคัญคือต้องได้พยานบุคคล พยานวัตถุ และผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงพยานเอกสารในการพิสูจน์ เนื่องจากมี 4 สัญญาสำคัญ คือ สัญญาการจ้างออกแบบ สัญญาควบคุมงาน สัญญาการเปลี่ยนแบบ และ สัญญาการก่อสร้าง ของกิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท อิตาเลียนไทย กับ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 โดยต้องรวบรวมข้อเท็จจริง เพราะทั้งหมดนั้นเป็นส่วนของคดีพิเศษและเป็นส่วนของเหตุประมาทที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือไม่ นอกจากนี้ ในการเก็บวัตถุพยาน และการช่วยเหลือต้องทำอย่างสอดคล้องกัน สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจเป็นหน่วยงานที่ทำการประสานข้อมูล ดังนั้นทุกหน่วยต้องรับฟังผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์”

ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รวบรวมข้อเท็จจริงตามที่ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กรณีที่ถูกแอบอ้างชื่อเป็นผู้ควบคุมงาน กิจการร่วมค้า PKW ในโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. แล้ว พนักงานสอบสวนจะทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐาน รวมถึงต้องพิสูจน์ด้วยพยาน และ นิติวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงที่สำคัญเพื่อนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ จึงจะทราบผลการตรวจพิสูจน์

“เป็นเวลากว่า 19 วันแล้ว ที่ทุกคนไม่ได้หลับไม่ได้นอน และที่สำคัญเรื่องนี้เป็นความเชื่อมั่นในระบบราชการของประเทศในฐานะกระบวนการยุติธรรมจะทำความจริงให้ปรากฏ และรวดเร็ว เหนือสิ่งอื่นใดเรามีผู้เสียชีวิต และสูญหายอยู่จำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เศร้าสลดในเทศกาลสงกรานต์ ต้องขอบคุณ กทม. และ รองผู้ว่าฯ ที่เข้มแข็งมาก ๆ” พ.ต.อ.ทวีฯ กล่าว

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 130 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน