“ราชทัณฑ์” เผยยอดโควิด-19 รักษาหายแล้ว 87% คาด ลดสถานะเรือนจำสีแดงหลายแห่ง ต้นเดือน ก.ค.นี้

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2174 ครั้ง

วันนี้ (27 มิ.ย.64) เวลา 13.00 น. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น.) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 45 ราย รักษาหายวันนี้ 225 รายเสียชีวิต 2 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 4,377 ราย

สถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาด จำนวน 126 แห่ง ลดลง 1 แห่ง จากการตรวจพบผู้ต้องขังแดนในติดเชื้อจากเรือนจำกลางนครปฐม ส่งผลให้เรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 13 แห่ง โดยรายงานผู้ติดเชื้อในวันนี้ เป็นการติดเชื้อจากแดนในของเรือนจำสีแดง จำนวน 42 ราย และการตรวจพบเชื้อในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 3 ราย จากเรือนจำกลางเชียงใหม่ 2 ราย และสถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี 1 ราย ขณะที่จำนวนผู้ป่วยรักษาหายยังมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง รวมรักษาหายสะสม 31,325 ราย หรือ 87% ของผู้ป่วยสะสม

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มของสถานการณ์ต่อจากนี้ คาดว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้อจะดีขึ้นในทุกจุด ทั้งผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ที่รักษาหาย โดยเฉพาะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ลดลง มีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีเรือนจำ/ทัณฑสถานหลายแห่งที่สามารถคืนพื้นที่แดนในเพื่อเป็นแดนปลอดเชื้อได้เกือบทั้งหมด และเหลือจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังคงรักษาอยู่ไม่ถึง 50 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้รับการดูแลรักษาจนหายได้ทั้งหมดและเข้าสู่กระบวนการลดสถานะจากเรือนจำสีแดงได้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม โดยเฉพาะเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และเรือนจำจังหวัดสงขลา ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลากว่า 10 วันแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงในหลายพื้นที่ แต่ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และระมัดระวังอย่างเข้มข้นในทุกจุดอยู่เสมอ

นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิต 2 รายในวันนี้ รายแรก เป็นผู้ต้องขังชายอายุ 65 ปี จากเรือนจำกลางบางขวาง รักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ X-ray พบปอดอักเสบ 2 ข้าง แพทย์ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir Dexamethasone ยาปฏิชีวนะระดับสูง ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และออกซิเจนความเข้มข้นสูง ต่อมาตรวจพบปอดอักเสบเพิ่มขึ้น แพทย์ร่วมปรึกษาแนวทางการรักษาร่วมกับญาติผู้ป่วยพิจารณารักษาประคับประคองช่วงอาการวิกฤติและปฏิเสธการใส่ท่อช่วยหายใจ กระทั่งในวันที่ 25 มิถุนายน ผู้ป่วยซึมลง ความดันโลหิตลดลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนรายที่ 2 เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 59 ปี เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา มีโรคประจำตัว เบาหวาน ไตวายเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพุทธโสธร มีอาการเหนื่อย หายใจเร็ว ปัสสาวะออกน้อย ร่วมกับระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ ขณะล้างไตมีภาวะความดันโลหิตต่ำ X-ray พบปอดอักเสบเพิ่ม เหนื่อยเพิ่มมากขึ้น แพทย์ได้ประสานญาติร่วมวางแผนการรักษา พิจารณารักษาโดยยาตามอาการ และปฏิเสธใส่ท่อช่วยหายใจ เนื่องจากอาการวิกฤตและมีโรคประจำตัวมาก จนกระทั่งได้เสียชีวิตลงในวันที่ 26 มิถุนายน 2564

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 2174 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน