มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 938 ครั้ง
เมื่อวันที่ 9 ส.ค.64 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของโควิดได้กระจายไปครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากผู้ติดเชื้อจาก กทม. เดินทางกลับภูมิลำเนาทำให้เชื้อแพร่กระจายออกไป แต่ในพื้นที่ต่างจังหวัดสามารถจัดการรองรับผู้ติดเชื้อได้ดีระดับหนึ่ง ขณะที่ใน กทม. และปริมณฑลซึ่งมีการแพร่ระบาดของโควิดอยู่ในระดับสูง ยังมีปัญหาอุปสรรคเรื่องการบริหารจัดการในการรับมือกับโควิดอยู่พอสมควร ถึงแม้ภาครัฐจะพยายามแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งโดยหลักการแล้ว แนวทางที่ภาครัฐออกมา น่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงยังมีความติดขัดในทางปฏิบัติที่ทำให้แนวทางดีๆ ที่ออกมายังไม่บรรลุผลเท่าที่ควร
จากการลงพื้นที่ของทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ในเขต กทม. และปริมณฑล พบว่า ประชาชนเรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินการใน 3 เรื่องสำคัญดังนี้
- ตรวจเชิงรุกคัดกรองผู้ติดเชื้อให้มากที่สุด โดยเฉพาะใน กทม. และปริมณฑลควรเร่งศักยภาพในการตรวจหาเชื้อ พร้อมทั้งปรับปรุงแนวปฏิบัติที่เป็นอุปสรรคต่อการตรวจหาเชื้อทั้งแบบ ATK และ PCR ภาครัฐควรสนับสนุนให้ประชาชนตรวจหาเชื้อโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ปรับปรุงการบริหารจัดการให้ผู้ติดเชื้อสามารถเข้าถึงการเข้าสู่ระบบได้โดยง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ไม่ควรปล่อยให้ผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบได้ยาก การโทรแล้วไม่ได้รับ และการโทรแล้วรับแต่ให้รอนานหลายวันไม่ควรเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อสูงอายุ หรือผู้ป่วยติดเตียงที่ติดโควิด ควรจัดระบบให้ดูแลรักษาอย่างเกาะติดเพื่อไม่ให้อาการทรุดหนักจนยากที่จะเยียวยาจนนำไปสู่การเสียชีวิต
- ควรบริหารจัดการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึง เพราะขณะนี้ประชาชนทั่วไป ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มไม่เสี่ยงต้องดิ้นรนติดต่อตามช่องทางที่ภาครัฐกำหนดขึ้นในการได้ฉีดวัคซีนด้วยความยากลำบาก
จึงขอเรียกร้องให้ภาครัฐ และ ศบค. ฟังเสียงประชาชนที่ส่งผ่านมายังผู้แทนประชาชนไปถึงผู้มีอำนาจในบ้านเมืองให้รับรู้ถึงความต้องการของประชาชนที่ต้องทนทุกข์ด้วยความยากลำบากในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ขณะนี้ เพื่อเร่งหาทางแก้ปัญหาต่างๆ ให้ทุเลาเบาบางลงโดยเร็ว
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 938 ครั้ง