มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1754 ครั้ง
นาทีชีวิตมิตรภาพกลางทะเล ศรชล. ให้ความช่วยเหลือชาวประมงเมียนมาที่ประสบเหตุเรือประมงล่ม ได้อย่างปลอดภัย
พลเรือตรี อิทธิพัทธ์ กวินเฟื่องฟูกุล โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ศรชล. ภาค 3 ได้รับแจ้งเหตุเรือประมงล่ม ระยะห่างจาก หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา ประมาณ 20 ไมล์ทะเล จึงได้สั่งการให้ ทัพเรือภาค 3 กองทัพเรือ ส่งเฮลิคอปเตอร์ จากกองการบินทหารเรือ ขึ้นบินค้นหาเพื่อวางแผนในการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากการตรวจสอบพบว่า เรือที่ประสบเหตุ เป็นเรือประมงเมียนมา เรืออยู่ในลักษณะตัวเรือตะแคงแต่ยังจมลงไม่มิด โดยมีลูกเรือประมาณ 6 คนขอความช่วยเหลือ
เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวจึงได้แจ้ง ไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ (นรภ.) เกาะสุรินทร์ ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ และ แสดงสัญลักษณ์ ให้เรือในพื้นที่ ใกล้เคียงทราบ จนกระทั่งมีเรือประมงชื่อ “สมทบ” พบสัญญาณและเข้าทำการช่วยเหลือลูกเรือทั้งหมดไว้ได้อย่างปลอดภัย และต่อมา เรือ ต.995 จากทัพเรือภาค 3 ได้ เดินทางมาเพื่อรับผู้ประสบเหตุ ชาวเมียนมาร์ทั้ง 6 คน นำกลับจังหวัดระนองเป็นที่เรียบร้อย โดยผ่านกระบวนการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ซึ่งทั้งหมดมีผลเป็นลบ และได้ประสานหน่วยประสานงานชายแดนไทย – เมียนมา ประจำพื้นที่ 6 จังหวัดระนอง (Thai & Myanmar Bordar Committee Office Ranong) เพื่อส่งตัวกลับประเทศต่อไป
การช่วยเหลือดังกล่าว สืบเนื่องจาก เรือบรรทุกน้ำมัน “ไพรินทร์” ได้รับแจ้งทางวิทยุจากเรือประมงไทย “สมทบ” พบเห็นเรือประมงสัญชาติเมียนมากำลังจม และมีคนลอยคออยู่ในทะเล จึงได้ทำการแจ้งศูนย์ควบคุมแจ้งเข้าออกเรือประมงจังหวัดระนอง (PIPO) เพื่อขอความช่วยเหลือ จนนำมาสู่การช่วยเหลือในที่สุด ทั้งนี้เรือประมงสัญชาติเมียนมาดังกล่าวได้ขัดข้องในเขตของทางเมียนมา เครื่องยนต์ขัดข้อง ได้ทำการทอดสมอในพื้นที่ฝั่งเมียนมา ต่อมาสมอเรือขาด เรือลอยตามกระแสน้ำและลมมาเรื่อย ๆ และคาดว่าเรือกระแทกกับหินโสโครกทำให้เรือแตก และน้ำเข้าเรือจึงเป็นสาเหตุของการอับปางกำลังจะจมในเขตไทย การช่วยเหลือในครั้งนี้นอกจากได้แสดงถึงศักยภาพของ ศรชล. แล้ว ยังสะท้อนถึงความร่วมมือของพี่น้องชาวประมงไทย เรือเดินทะเลของไทยที่เข้าใจในบทบาทของหน่วยงานทางทะเลของรัฐ และผลการปฏิบัติในครั้งนี้ยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอีกด้วย
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1754 ครั้ง
