“เฉลิมชัย” สั่งเร่งขยายผลเจาะตลาดฮาลาลมูลค่า 48 ล้านล้านบาท

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 489 ครั้ง

“เฉลิมชัย” สั่งเร่งขยายผลเจาะตลาดฮาลาลมูลค่า 48 ล้านล้านบาท หลังประสบความสำเร็จในการเจรจาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับยูเออี.และดูไบ “อลงกรณ์” ผนึกมืออาชีพทุกภาคส่วนจัดตั้งคณะทำงานฮาลาลไทยแลนด์ (Thailand Halal Taskforce) ทันทีโฟกัสตลาดกลุ่มมุสลิม 2 พันล้านคน เตรียมคิกออฟโครงการระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลภาคใต้ภายในปีนี้เริ่มจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ หลังซาอุฯ ไฟเขียวนำเข้าไก่ไทย

วันนี้ (25 มี.ค.65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐานฮาลาล เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” ครั้งที่ 2/2565 ว่า ที่ประชุมมีมติให้จัดตั้งคณะทำงานฮาลาลไทยแลนด์ (Thailand Halal Taskforce) มีหน้าที่เร่งรัดการขยายความร่วมมือด้านการลงทุนและการค้าสินค้าเกษตรและอาหารมาตรฐานฮาลาล ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า 30 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขับเคลื่อนขยายผลตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ ที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาขยายความร่วมมือกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และดูไบ ทั้งภาครัฐและเอกชนในการเปิดศักราชหน้าใหม่ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าการลงทุนระหว่างกัน จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับประเทศไทยซึ่งมีศักยภาพการผลิตและส่งออกอาหารอันดับ 13 ของโลก จะต้องเร่งเจาะตลาดประชากรมุสลิม 2 พันล้านคน รวมทั้งการร่วมลงทุนด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารฮาลาลตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ โดยคณะทำงานชุดนี้จะเดินหน้าขยายความร่วมมือในทุกมิติทางเศรษฐกิจ

รวมทั้งเร่งดำเนินการโครงการการลงทุนเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรฮาลาลใน 5 จังหวัดภาคใต้ คือ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สตูล และสงขลา ที่ได้วางงานไว้ก่อนหน้านี้ภายใต้กรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลภาคใต้ โดยจะเริ่มจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์และเกษตรพลังงาน โดยเฉพาะกรณีที่กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการจนซาอุดีอาระเบียยกเลิกการห้ามนำเข้าไก่แปรรูปจากไทยและรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีสามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียกลับสู่ภาวะปกติได้สำเร็จ

ในขณะที่วันนี้ประเทศไทยมีความร่วมมืออย่างดียิ่งเรื่องมาตรฐานฮาลาลกับกลุ่มประเทศอาหรับ (OAC) กลุ่มประเทศรอบอ่าวเปอร์เซีย (GCC) กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มประเทศเอเชียกลาง และกลุ่มประเทศแอฟริกา โดยคณะทำงานชุดนี้ประกอบไปด้วย ภาคเอกชน คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย ศูนย์ AIC สถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันอาหาร สมาคมการค้านักธุรกิจไทยมุสลิม สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สสปน.

โดยภาครัฐมีกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์เป็นแกนนำร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงอุตสาหกรรมโดยทำงานภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ทำได้ไวทำได้จริงของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ และแผนปฏิบัติการฮาลาล (Thailand Halal Blueprint) ซึ่งได้วางโครงการแผนงานและคำของบประมาณสนับสนุนไปก่อนหน้านี้แล้วและเนื่องจากเป็นวาระเร่งด่วนจึงจำเป็นที่จะต้องขอการสนับสนุนจากงบกลางหรืองบเหลือจ่ายของงบประมาณประจำปี 2565 เพื่อขับเคลื่อนงานได้รวดเร็วขึ้น

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า จากการวิจัยตลาดฮาลาลมีรายงานว่าในปี 2020 ตลาดอาหารและเครื่องดื่มฮาลาลทั่วโลก มีมูลค่า 1,533,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (48ล้านล้านบาท) และประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,285,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 71 ล้านล้านบาท) ในปี 2026 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% คิดเป็นมูลค่าเพิ่มปีละ 560 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (16.8 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่จะสามารถเพิ่มการส่งออกสร้างงานสร้างอาชีพใหม่ๆ สำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการของไทยในยุคโควิด 19

นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบภารกิจในการเดินทางไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กับดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ ใน 5 ประเด็นสำคัญ คือ 1) AIPHคัดเลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกปี พ.ศ. 2569 2) การเจรจาขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนสินค้าเกษตรและอาหาร และระบบรับรองมาตรฐานฮาลาล ทั้งนี้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ผลิตอาหารได้เพียง 20% ต้องนำเข้า 80% และสนใจที่จะร่วมลงทุนกับประเทศไทยในด้านการเกษตร 3) การตรวจเยี่ยมงานแสดงนิทรรศการระดับโลกของประเทศไทยแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลในมิติต่างๆ รวมถึงสินค้าเกษตรและอาหารของไทยในงาน World Expo 2020 Dubai 4) เยี่ยมชม Museum of the Future’ พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต ที่สื่อให้ประชาชนทั่วโลกได้ทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีก 50 ปีข้างหน้า 5) ความร่วมมือด้านโลจิสติกส์กับบริษัท DP World ของรัฐดูไบ และการส่งเสริมการค้ามาตรฐานฮาลาล กับศูนย์ส่งเสริมการค้าและการตลาดฮาลาลของยูเออี และดูไบ

พร้อมทั้ง รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการล่าสุดของคณะอนุกรรมการฯ ทั้ง 4 คณะ คือ 1) คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์และนโยบายการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐานฮาลาลประเด็นความคืบหน้าของแผนปฏิบัติการฮาลาล (Thailand Halal Blueprint) 2) คณะอนุกรรมการส่งเสริมการค้าสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” ได้กำหนดแผนการดำเนินงานในปี 2565 มุ่งเน้นส่งเสริมสินค้าจากประเทศไทยสู่ตลาดจีน และประเทศในแถบเอเชียกลาง ในงาน China International Import Expo (CIIE) และ งาน SIAL China 3) คณะอนุกรรมการส่งเสริมการผลิตและการลงทุนเกี่ยวกับสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” รายงานความก้าวหน้าของการขับเคลื่อนโครงการต้นน้ำ และปลายน้ำ ของโครงการต้นแบบเกษตรฯ อุตสาหกรรมฮาลาลในจังหวัดชายแดนภาคใต้ Halal Sustainable Economy และ โครงการพัฒนาอาหารปลอดภัย KU Safe Market และ 4) คณะอนุกรรมการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” ในพื้นที่ชายแดนใต้ เตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจฮาลาลจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยแนวทางการส่งเสริมเกษตรฐานรากเชื่อมโยงอุตสาหกรรมไก่แบบครบวงจรกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเดือนมีนาคม 2565 นี้

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังรับทราบรายงานสถานการณ์แก้ไขปัญหาเนื้อวัวปลอมปนเนื้อสุกร ซึ่งได้กำหนด 5 มาตรการเร่งด่วน ได้แก่ มาตรการสื่อสารเตือนภัยผู้บริโภค มาตรการป้องปรามผู้ค้า มาตรการปราบปรามผู้กระทำผิด มาตรการส่งเสริมมาตรฐานฮาลาล และมาตรการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) จากโรงฆ่าสัตว์ถึงผู้บริโภค นอกจากนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะให้บริการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งจากการตรวจสอบในปีงบประมาณครั้งล่าสุด มีการเก็บตัวอย่างไปแล้ว 70 ตัวอย่าง ซึ่งยังไม่พบเนื้อสุกรปลอมปนเนื้อวัว อย่างไรก็ตามกรมปศุสัตว์ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ สำนักการเกษตรต่างประเทศ สรุปผลการเจรจาหารือขยายความร่วมมือด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุนสินค้าเกษตรและอาหารในคราวเดินทางไปเยือน UAE และดูไบ พร้อมทั้งมอบฝ่ายเลขานุการฯ ให้รวบรวมสรุปข้อมูลระบบรับรองมาตรฐานฮาลาลที่มีในแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทยได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาลจากประเทศใดบ้าง และนำเสนอต่อที่ประชุมในครั้งต่อไป

สำหรับการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสินค้าและผลิตผลการเกษตรมาตรฐาน “ฮาลาล” ครั้งที่ 2/2565 เมื่อ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา ผ่านระบบ ZOOM Cloud Meeting มีผู้เข้าประชุม ประกอบด้วย รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.ปกรณ์ ปรียากร ผู้อำนวยการสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย นายชยดิฐ หุตานุวัชร์ประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมการลงทุนฮาลาล คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ศูนย์ AIC จังหวัดสงขลา) สถาบันอาหาร สมาคมการค้านักธุรกิจไทยมุสลิม สมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ ศอบต. สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ สนปน. หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมประชุม โดยมีนางสาวรวินันท์ ฉ่ำเฉลิม ผู้อำนวยการกองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ ทำหน้าที่เลขานุการการประชุม

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 489 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน