มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1601 ครั้ง
“รัฐมนตรีเฉลิมชัย” พอใจผลการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนล็อตแรกด้วยรถไฟสาย “จีน-ลาว” ผ่านด่านโมฮ่านในมณฑลยูนนานแล้ววันนี้ “อลงกรณ์” เผยแผนต่อไปเดินหน้าจับมือ “ลาว-เวียดนาม” เปิดประตูอีสานสู่แปซิฟิกจากนครพนมเชื่อมท่าเรือหวุงอ๋างเพิ่มช่องทางขนส่งสินค้าเกษตรทางเรือ
วันนี้ (3 เม.ย.65) นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะทำงานของคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยว่า การขนส่งทุเรียน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ และมะพร้าวจำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ทางรถไฟจากสถานีรถไฟมาบตาพุตจังหวัดระยองในภาคตะวันออกสู่ประเทศจีน โดยมี นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุขและส.ส.ระยอง เป็นประธานการปล่อยขบวนรถเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ได้ถึงช่วงสุดท้ายที่สำคัญมากคือการขนส่งข้ามพรมแดนลาวที่ด่านบ่อเตนสู่แผ่นดินใหญ่จีนที่ด่านโมฮ่านมณฑลยูนนานได้ในวันนี้ นับเป็นระบบการขนส่งหลายรูปแบบ (Multi Modal Transportation) คือใช้ทั้งระบบรางและระบบรถที่เริ่มดำเนินการเป็นครั้งแรก เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า กรณีที่ยังไม่สามารถขนส่งผลไม้ทางรถไฟจากลาวข้ามแดนไปด่านรถไฟโมฮ่านโดยตรง เนื่องจากจีนกำลังก่อสร้างอาคารและลานตรวจโรคพืชที่ด่านรถไฟโมฮ่าน จึงต้องไปใช้การตรวจโรคพืชที่ด่านโมฮ่าน ซึ่งเป็นด่านใหญ่ด่านเดิมไปพรางก่อน
“ทั้งนี้ได้รายงานให้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ทราบแล้ว โดยท่านรัฐมนตรีได้แสดงความพอใจแผนโลจิสติกส์เกษตรที่ประสบผลสำเร็จจากการทดสอบการขนส่งทุเรียนและมะพร้าวน้ำหอมล็อตแรกจากไทยผ่านลาวไปจีน ภายใต้พิธีสารผลไม้ไทย-จีนด้วยเส้นทางรถไฟจีน-ลาว โดยได้สั่งการให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ในวันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาทุกขั้นตอน เนื่องจากการขนส่งล็อตแรกยังมีความล่าช้ากว่าเป้าหมาย รวมทั้งการจัดการเรื่องพิธีการเอกสารของหน่วยงานต่างๆ การจองขบวนรถไฟ ตารางการเดินรถ และค่าระวางการขนส่งในระบบ “ราง-รถ” ให้สามารถเพิ่มปริมาณการขนส่งผลไม้บนเส้นทาง “หนองคาย-เวียงจันทน์-บ่อเตน-โมฮ่าน” ให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพื่อเป็นอีกทางเลือกใหม่ของการขนส่งผลไม้ไทยไปจีน สำหรับฤดูการผลิตปี 2565”
นายอลงกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการขนส่งผ่านท่าเรือหวุงอ๋างว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมากในการประสานงานกับลาว และเวียดนาม ในการเปิดเส้นทางขนส่งผลไม้และสินค้าเกษตรออกทางด่านนครพนม-ด่านท่าแขก แขวงคำม่วนของลาวเข้าสู่เวียดนามที่ด่านชายแดนนาเพ้า-จาลอ จังหวัดกว๋างบิ่ญ โดยมีปลายทางที่ท่าเรือน้ำลึกหวุงอ๋าง จังหวัดฮาติงห์ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีระยะทางไม่ถึง300กิโลเมตรเพื่อลงเรือสินค้าไปยังตลาดปลายทางเช่นท่าเรือซินโจวและฟรีโซนหนานหนิงในเขตปกครองตนเองกว่างสี ท่าเรือกวางโจว เซิ่นเจิ้น ฮ่องกง เซี๊ยะเหมิน หนิงโป เซี่ยงไฮ้ เกาหลี ญี่ปุ่น และทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ เพื่อย่นระยะทางและเวลาในการขนส่งโดยไม่ต้องย้อนใต้ไปผ่านท่าเรือสิงคโปร์ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายอีสานเกตเวย์ และระเบียงเศรษฐกิจอีสาน ภายใต้การบริหารโลจิสติกส์เกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ โดยบูรณาการทำงานเชิงรุกกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคเกษตรกร ซึ่งประสบความสำเร็จในการเปิดอีสานเหนือไปแล้วทั้งเส้นทางขนส่ง “ราง-รถ” ผ่านด่านหนองคายและงานมหกรรมพืชสวนโลกปี 2569 ที่อุดรธานี เป็นการโปรโมทอีสานและประเทศไทย โดยความร่วมมือกับประเทศอาเซียนและจีน และยังเป็นการเชื่อมโยงตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ระหว่างไทย ลาว เวียดนาม และจีน หนึ่งในยุทธศาสตร์การเปิดเสรีทางการค้าของกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1601 ครั้ง