มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1312 ครั้ง
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นในการผลิตอาหารคุณภาพเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงอาหารปลอดภัยอย่างเพียงพอ ย้ำ “5 หัวใจของการเลี้ยงสัตว์” ประกอบด้วย 5 ดีได้แก่ พันธุ์ดี-อาหารดี-โรงเรือนดี-การจัดการดี-ป้องกันโรคดี บูรณาการหลักสวัสดิภาพสัตว์ และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อการผลิตอาหารปลอดภัย ปลอดเชื้อ มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐานสากล เป็นมิตรกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
น.สพ.ดำเนิน จตุรวิธวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านบริการวิชาการสุกร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความใส่ใจเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ แหล่งที่มาที่รับผิดชอบ นอกเหนือจากคุณภาพ และความปลอดภัยของอาหาร ซีพีเอฟ จึงมุ่งมั่นยกระดับห่วงโซ่การผลิตเนื้อสัตว์อย่างต่อเนื่อง โดยยึดหลักการ “5 หัวใจการเลี้ยงสัตว์” ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ และมาตรฐานความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทาง รวมทั้งนำระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยดำเนินงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์อัจฉริยะ (smart farm) เพื่อให้ได้ผลผลิตปลอดภัย ปลอดโรค ปราศจากสารตกค้าง ได้มาตรฐาน มีส่วนร่วมสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหาร
“หลัก 5 หัวใจ ประกอบด้วย พันธุ์ดี-อาหารดี-โรงเรือนดี-การจัดการดี-ป้องกันโรคดี เป็นแนวทางที่ซีพีเอฟยึดถือเพื่อการผลิตและส่งต่ออาหารที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค ซึ่งเกษตรกรสามารถนำไปปรับใช้ได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ช่วยรับมือกับความท้าทายต่างๆได้อย่างเข้มแข็ง” น.สพ.ดำเนิน กล่าว
5 หัวใจในการเลี้ยงสัตว์ นับเป็นหลักการพื้นฐานของการเลี้ยงสัตว์ ประกอบด้วย
1) พันธุ์ดี หรือ การใช้พันธุ์สัตว์ที่ดี แข็งแรง ไม่มีโรค เป็นต้นทางที่สำคัญของการผลิตเนื้อสัตว์คุณภาพสูง ซีพีเอฟ จึงให้ความสำคัญกับการคัดสรรพันธุ์สัตว์ที่ดี แข็งแรง ปลอดโรคที่สำคัญ ควบคู่กับการพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์สัตว์ที่เหมาะสม เพื่อให้สัตว์เจริญเติบโตได้เต็มที่ตามลักษณะสายพันธุ์ เกษตรกรไม่จำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต
2) อาหารดี โดยสัตว์ต้องได้รับอาหารที่มีคุณภาพดี อย่างเพียงพอ ซีพีเอฟจึงคัดสรรวัตถุดิบชั้นดี ยังไม่หยุดวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารที่เหมาะสมกับสัตว์ในแต่ละช่วงวัย รวมทั้งการเพิ่มมูลค่าและคุณค่าทางโภชนาการในอาหารให้กับผู้บริโภค เช่น การใช้โปรไบโอติก เพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้สัตว์แข็งแรงช่วยให้ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ นอกจากนี้ ยังนำวัตถุดิบที่เป็นแหล่งของโอเมก้า-3 มาเพิ่มคุณค่าโภชนาการในอาหารสัตว์ เช่น เมล็ดแฟลกซ์ (flaxseed) จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ หมูชีวา และไก่เบญจา เสริมโอเมก้า-3
3) โรงเรือนดี คือการเลี้ยงสัตว์ในโรงเรือนที่เหมาะสม มีระบบการป้องกันโรคที่ดี อย่างการเลี้ยงสุกร ในโรงเรือนระบบปิด Evaporative Cooling System หรืออีแวป ใช้ระบบคอมพิวเตอร์และระบบอัจฉริยะในการควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนที่เหมาะสม ช่วยให้สัตว์มีความเป็นอยู่สบาย กินอาหารได้เต็มที่ เจริญเติบโตดี ไม่เครียด ไม่ป่วย จึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา
4) การจัดการดี เป็นการจัดการฟาร์มและสภาพแวดล้อมที่ดี โดยยึดหลักมาตรฐานฟาร์มของกรมปศุสัตว์และกรมประมง เพื่อการผลิตสัตว์ที่มีมาตรฐาน ใส่ใจชุมชน ร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม เช่น การติดตั้งระบบไบโอแก๊สที่ช่วยลดกลิ่นและได้ก๊าซชีวภาพที่เป็นพลังงานสะอาดมาผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในฟาร์ม และมีการนำระบบโซลาเซลล์มาใช้ควบคู่ด้วย
5) การป้องกันโรคดี ซีพีเอฟ ตระหนักดีว่า ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) เป็นกระบวนการที่จะช่วยปกป้องฟาร์มให้ปลอดจากโรคระบาดสัตว์และโรคระบาดคน ป้องกันสัตว์พาหะไม่ให้เข้าฟาร์ม บูรณาการระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยยกระดับความปลอดภัย อาทิ ระบบสังเกตการณ์ทางไกลด้วยระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ช่วยให้สามารถดูแลสัตว์ได้ทุกที่ทุกเวลา ติดตามสุขภาพสัตว์อย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดความเสี่ยงจากคนที่ต้องเข้าไปในโรงเรือน ช่วยติดตามการปฏิบัติงานในแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน รวมทั้งมีการตรวจสิ่งปนเปื้อนและเชื้อโรคในห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ทุกกระบวนการผลิตในโรงงานผลิตเนื้อสัตว์ ตั้งแต่โรงงานชำแหละ โรงตัดแต่ง โรงงานแปรรูป จนถึงศูนย์กระจายสินค้า ซีพีเอฟ คำนึงถึงความปลอดภัยอาหารเป็นสำคัญ มีการตรวจเชื้อและสิ่งแปลกปลอมเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ปลอดภัย ไม่มีการปนเปื้อน และได้รับการรับรองมาตรฐานควบคุมกระบวนการผลิต เช่น ระบบประกันคุณภาพ (Good Manufacturing Practice; GMP) และระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมในการผลิตอาหาร (Hazard Analysis and Critical Control Point System; HACCP) จึงเป็นการสร้างความมั่นใจในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า ตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงต้นทางกระบวนการผลิต
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1312 ครั้ง