มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1228 ครั้ง
วันนี้ (22 มิ.ย.65) นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และ นางสาวนภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง สำนักงานศาลยุติธรรม กับ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เรื่องความร่วมมือ แลกเปลี่ยน สนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ และพัฒนาบุคลากรทางวิชาการ โดยมี นายภพ เอครพานิช รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และ นายต้นพงศ์ ตั้งเติมทอง รองเลขาธิการวุฒิสภา ร่วมลงนามฯ ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 12 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ
นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้เป็นการนำจุดแข็งของทั้งสองหน่วยงานมาสนับสนุนซึ่งกัน และศาลยุติธรรมเป็นฝ่ายบังคับใช้กฎหมายในส่วนของตุลาการ อีกทั้งในส่วนสำนักงานเลขาวุฒิสภา มีข้อมูลเกี่ยวกับการบัญญัติกฎหมาย โดยในส่วนของศาลยุติธรรมจะนำเจตนารมณ์ของการบัญญัติกฎหมาย ที่ได้มีการอภิปรายกันในสภามาใช้เป็นข้อมูลในการวินิจฉัยตีความกฎหมาย วางบรรทัดฐานการบังคับใช้กฎหมาย และเป็นประโยชน์ต่อผู้พิพากษาในการวินิจฉัยคดีที่จำเป็นต้องรู้เจตนารมณ์ในการออกกฎหมาย ร่วมไปถึงในการใช้เป็นข้อมูลในประชุมใหญ่ของผู้พิพากษาศาลฎีกาด้วย เพื่อจะได้นำไปใช้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประชาชนต่อไป
“สำหรับการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการก้าวไปอีกขั้นของความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน ที่มีหน้าที่ในการสนับสนุนสถาบันที่ใช้อำนาจตุลาการและอำนาจนิติบัญญัติ เพื่อบูรณาการ พัฒนา แลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญ และเพิ่มพูนประสิทธิภาพ อันจะส่งผลต่อการอำนวยความยุติธรรม และการนิติบัญญัติต่อไป” เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าว
นายจีระพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และมีสมรรถนะสูง ปฏิบัติหน้าที่โดยมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ของส่วนรวม และเป็นไปตามหลักนิติธรรมและหลักธรรมาภิบาล ด้วยการเพิ่มพูนความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านวิชาการและการบริหารงานยุติธรรม รวมทั้งการแลกเปลี่ยน และสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ เพื่อให้บุคลากรสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงได้ร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว เพื่อร่วมมือ แลกเปลี่ยน สนับสนุนข้อมูลและพัฒนาบุคลากรทางวิชาการแก่กัน อาทิ บทความทางวิชาการ เอกสารงานวิจัย คู่มือการปฏิบัติงาน แนวปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ รวมถึงคำพิพากษา คำสั่ง หรือคำวินิจฉัยที่สามารถเปิดเผย และเป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างงานวิชาการ อำนวยความสะดวกในการค้นคว้าข้อมูลทางวิชาการ สนับสนุนการฝึกอบรมและดูงานในหลักสูตรต่าง ๆ ตลอดจนสนับสนุนบุคลากรหรือผู้ทรงคุณวุฒิบรรยายพิเศษ ทั้งยังร่วมมือ แลกเปลี่ยน และสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านบทเรียนออนไลน์ (e-Learning) หรือการเรียนรู้ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทักษะเดิม (Upskill) และเพิ่มเติมทักษะใหม่ (Reskill) อันจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของบุคลากรให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในสถานการณ์ปัจจุบันอีกด้วย
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1228 ครั้ง