มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1364 ครั้ง
วันนี้ (19 ก.ย.65) เวลา 10.00 น. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ รองศาสตราจารย์ ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ลงนามบันทึกความเข้าใจด้านการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง ระหว่าง กรมราชทัณฑ์ และ มหาวิทยาลัยบูรพา โดยมี นายวิรุณ เจริญเกียรติวงศ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาพฤตินิสัย และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พรรณี พิมาพันธุ์ศรี คณบดีคณะบริหารธุรกิจ ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมด้วยผู้บัญชาการเรือนจำ/ทัณฑสถาน และผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ร่วมพิธี ณ ห้องประชุม 903 ชั้น 9 อาคาร ภปร. มหาวิทยาลัยบูรพา
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า โดยการจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจด้านการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังในครั้งนี้ เป็นการริเริ่มดำเนินการของนายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายพัฒนา ที่ได้ประสานความร่วมมือระหว่าง กรมราชทัณฑ์ และมหาวิทยาลัยบูรพา ในการสนับสนุนภารกิจด้านการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง ทั้งในด้านวิชาการ การสร้างและพัฒนานวัตกรรม การพัฒนาองค์ความรู้ในการจัดการศึกษาการฝึกวิชาชีพ การพัฒนาร่างกายและจิตใจ การเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ตลอดจนการติดตามภายหลังพ้นโทษ โดยมียุทธศาสตร์ในการพัฒนาสมรรถนะกำลังคน ส่งเสริมศักยภาพ ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และส่งเสริมทักษะอนาคต เพื่อให้ผู้ต้องขังมีคุณภาพ จริยธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานและมีทักษะเป็นที่ยอมรับในการทำงานภายหลังพ้นโทษ ซึ่งมีทั้งโครงการจากกรมราชทัณฑ์ และโครงการตามความเชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยบูรพา รวมทั้งสิ้นกว่า 20 โครงการ
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า โครงการด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ที่ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยบูรพา จะนำมาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติให้กับเรือนจำ/ทัณฑสถาน ทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการดำเนินงานด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ให้สามารถแก้ไขฟื้นฟู ปรับเปลี่ยนทัศนคติ พฤติกรรมผู้ต้องขัง ได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป โดยจะเริ่มดำเนินโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และจัดทำแผนการดำเนินความร่วมมือภายใต้กรอบระยะเวลา 5 ปี ขณะนี้มีโครงการที่พร้อมดำเนินความร่วมมือกัน จำนวน 20 โครงการ อาทิ โครงการพัฒนาห้องสมุดเรือนจำ/ทัณฑสถาน “เปิดโลกใบใหม่ด้วยการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21” โครงการ “เรือนใจ” ดนตรีและการแสดงเพื่อสุนทรียะและการปลูกพลังใจ, โครงการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในโรงงาน, โครงการปรับปรุงภาพลักษณ์สินค้าและเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์, โครงการฝึกทักษะอาชีพเรือนจำท่องเที่ยว และโครงการฝึกอบรมผู้ดูแลผู้ต้องขังสูงอายุ เป็นต้น
“โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของการยกระดับการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง สร้างโอกาสทางการศึกษาอบรม และการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ เชื่อมโยงข้อมูล พัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรม เพื่อแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด และสร้างการยอมรับผู้พ้นโทษกลับคืนสู่สังคมได้อย่างยั่งยืนต่อไป” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 1364 ครั้ง