ผบ.ทร. เปิดการฝึกกองทัพเรือ ปี’66 เพิ่มขีดความสามารถ เตรียมพร้อมกำลังรบ-ช่วยเหลือ ปชช.

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 462 ครั้ง

วันนี้ (10 ก.พ.66) พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2566 ณ กองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพรฯ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ และผู้บังคับบัญชาในกองอำนวยการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2566 ให้การต้อนรับ

ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบโอวาทให้กับกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึก และชมการการสาธิตการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งมีการประกอบกำลังจากหน่วยกำลังรบ และหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ ในกองทัพเรือมาเข้าร่วมการปฏิบัติการสาธิตฯ โดยเป็นการปฏิบัติการโจมตีจากทะเลต่อที่หมายบนฝั่ง ด้วยกำลังรบยกพลขึ้นบก กำลังปฏิบัติการพิเศษ และอาวุธจากเรือผิวน้ำและอากาศยาน นอกจากนั้น ยังมีการสาธิตการป้องกันพื้นที่สำคัญบนฝั่งด้วยกำลังต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งอีกด้วย

กองทัพเรือได้จัดให้มีการฝึกกองทัพเรือประจำปีมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำรงความพร้อมของหน่วยต่าง ๆ ในการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศ แบ่งการฝึกเป็นวงรอบทุก 2 ปี ตามสถานการณ์ที่ถูกกำหนดขึ้น โดยในปีแรกหรือ Light Year เป็นการฝึกในสถานการณ์ปกติจนถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระดับต่ำ ส่วนในปีที่ 2 หรือ Heavy Year เป็นการฝึกในสถานการณ์วิกฤตจนถึงขั้นการป้องกันประเทศ

การฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2566 นี้ จัดขึ้นระหว่าง 28 พ.ย.65 – 22 มิ.ย.66 โดยมีกำลังทางเรือประเภทต่าง ๆ เข้าร่วมการฝึก ได้แก่ เรือผิวน้ำ จำนวน 20 ลำ เครื่องบิน จำนวน 4 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 6 เครื่อง อากาศยานไร้คนขับ จำนวน 2 ระบบ กำลังจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กำลังจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กำลังจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ตลอดจนหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ มีกำลังพลเข้าร่วมการฝึกรวมทั้งสิ้น 4,500 นาย มีพื้นที่การฝึกทั้งในทะเลและบนบกโดยแบ่งการฝึกเป็น 2 ส่วน คือ การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise: CPX) มีระยะเวลาการฝึกรวม 3 สัปดาห์ ระหว่าง 27 ก.พ.66 – 17 มี.ค.66 เพื่อฝึกการควบคุมบังคับบัญชา และทดสอบแนวความคิดในการใช้กำลังและหลักนิยมต่าง ๆ ของหน่วยบังคับบัญชาในระดับต่าง ๆ และการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล (Field Training Exercise: FTX) ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 12 พฤษภาคม 2566

ซึ่งเป็นการฝึกปฏิบัติการจริงของหน่วยกำลังรบประเภทต่างๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและประสบการณ์ให้กับกำลังพล รวมทั้งเป็นการทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการต่าง ๆ อาทิ การคุ้มครองเส้นทางคมนาคมทางทะเล การโจมตีกำลังทางเรือของฝ่ายตรงข้าม การปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก และการป้องกันฝั่ง ซึ่งกำลังทางเรือต้องฝึกการปฏิบัติทางยุทธวิธีตามสาขาปฏิบัติการต่างๆ ได้แก่ การปราบเรือดำน้ำ การต่อต้านเรือผิวน้ำ การป้องกันภัยทางอากาศ การปฏิบัติการพิเศษ การยกพลขึ้นบก รวมทั้งปฏิบัติการข่าวสารและสงครามไซเบอร์ ทั้งนี้ จะมีการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น – สู่ – พื้น แบบ Harpoon Block 1C ในทะเลอันดามัน โดย ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งที่จัดสร้างขึ้นในประเทศไทย การฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างเรือและอากาศยาน อีกด้วย

นอกจากนั้น ยังมีการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การยิงอาวุธประจำหน่วย และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ของกำลังภาคพื้นดิน ทั้งกำลังจากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รวมทั้งกองทัพบกและกองทัพอากาศที่ได้จัดกำลังเข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้ด้วย

ในขณะเดียวกัน ได้มีการฝึกด้านการส่งกำลังบำรุง (Logistics Exercise: LOGEX) เพื่อทดสอบขีดความสามารถด้านการส่งกำลังบำรุงและการปฏิบัติของหน่วยสนับสนุนต่างๆ พร้อมกันไปด้วย และที่สำคัญ คือ การฝึกในครั้งนี้ ได้มีการเชิญ ศรชล. กองทัพบก และกองทัพอากาศ จัดกำลังเข้าร่วมการฝึกในหัวข้อการฝึกต่างๆ อีกด้วย เช่น กำลังของ ศรชล. ในการฝึกป้องกันพื้นที่สำคัญ กำลังของกองทัพอากาศ อาทิเครื่องบินขับไล่แบบ JAS-39 Gripen (บข.20) และเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางภัยอากาศ SAAB 340 AEW (บ.ค.๑) ในการฝึกป้องกันภัยทางอากาศให้กับกองเรือและการโจมตีเรือในทะเล กำลังของกองทัพบก อาทิ รถถังแบบ T – 84 Oplot-M ในการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง เป็นต้น

ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2566 นั้น นอกจากกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกจะได้รับความรู้ ความชำนาญเพิ่มขึ้นจากการฝึกแล้ว ยังทำให้กองทัพเรือได้รับทราบถึงขีดความสามารถและข้อจำกัดของกำลังทางเรือที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการปฏิบัติการร่วมกันกับ ศรชล. และ เหล่าทัพ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาขีดความสามารถสำหรับการปฏิบัติภารกิจ โดยเฉพาะในการป้องกันประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยขีดความสามารถของกำลังทางเรือที่เตรียมไว้สำหรับการทำสงคราม ยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ในยามปกติได้อีกด้วย   

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 462 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน