ศาล จับมือ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมพัฒนาศักยภาพทางด้านการวิจัยและวิชาการให้เกิดประโยชน์สูงสุด

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 304 ครั้ง

วันนี้ (23 ส.ค.66) นายเผ่าพันธ์ ชอบน้ำตาล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และ นายทิฆัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติการแทน เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อพัฒนาศักยภาพทางด้านการวิจัยและวิชาการ ระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรม กับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมี นางอรวรานันท์ ธนาพันธ์วรากุล ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายและวิชาการศาลยุติธรรม และ นางขนิษฐนันท์ อภิหรรษากร ผู้อำนวยการสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมสักขีพยาน ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 12 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ

นายเผ่าพันธ์ ชอบน้ำตาล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ปฏิบัติราชการแทน เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อพัฒนาศักยภาพทางด้านการวิจัยและวิชาการ และถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการซึ่งกันและกัน รวมทั้งเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการจัดอบรม สัมมนา ประชุมวิชาการ งานวิจัย การบริการวิชาการ และจัดกิจกรรมทางวิชาการอื่น ๆ พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านการพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถและพัฒนาศักยภาพทางวิชาการ โดยส่งเสริมและเปิดโอกาสให้บุคลากรของทั้งสองหน่วยงานแลกเปลี่ยนการเข้ารับการอบรม การสัมมนาทางวิชาการ หรือการบรรยายพิเศษในหลักสูตรตามที่หน่วยงานผู้จัดเห็นสมควร เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการปฏิบัติงานและส่งเสริมให้บุคลากรมีสมรรถนะที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการนี้เป็นกรอบแนวทางเบื้องต้นในการดำเนินงานขั้นตอนต่อไปหน่วยงานทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันกำหนดรายละเอียดเฉพาะเรื่องภายใต้ขอบเขตวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของแต่ละฝ่าย โดยไม่ขัดแย้งกับกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับของหน่วยงานทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะประสานความร่วมมือระหว่างกันและจะสนับสนุนการดำเนินงาน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะต่อไป โดยมอบหมายให้หน่วยงานภายในสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินที่รับผิดชอบติดต่อประสานงาน ได้แก่ สถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินศึกษา และหน่วยงานภายในสำนักงานศาลยุติธรรมที่รับผิดชอบติดต่อประสานงาน ได้แก่ สถาบันวิจัยและพัฒนารพีพัฒนศักดิ์

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 304 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน